ผู้ประกอบการเลี้ยงหมูกลางหมู่บ้าน คอกหมูอยู่ติดริมรั้วศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รพ.สต. วัด ร้านค้า เด็ก-คนเฒ่าคนแก่-ผู้ป่วย สุดทนดมกลิ่นเหม็นขี้หมูมานานกว่า 3 ปี ขณะที่ ผู้ประกอบการรับปาก กับ อบต.ยอกแกง ขอเวลา 4 เดือน ย้ายคอกหมูออกจากพื้นที่
27 ธ.ค.66 นางอรวรรณ ศรีประเสริฐ อายุ 45 ปี ชาวบ้านหนองหญ้าปล้อง หมู่ 6 ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว กรณี คนแก่คนเฒ่า-เด็ก-และผู้ป่วยติดเตียง ได้รับผลกระทบจากการสูดดมกลิ่นเหม็นมูลสุกร (ขี้หมู) ทำให้มีอาการอาเจียน และปวดศรีษะอย่างรุนแรง นอกจากนี้กลิ่นเหม็นของมูลสุกร ยังส่งผลให้ผู้ป่วยติดเตียง และคนแก่ รับประทานข้าวไม่ได้ มีความเดือดร้อนรำคาญจากกลิ่มเหม็นของสุกร มานานกว่า 3 ปี
เคยร้องเรียนไปที่ อบต.ยอดแกง เมื่อปี 2565 เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข ได้ออกมาตรวจสอบและมีการลงนามแก้ไขปัญหาโดยการให้ผู้ประกอบการย้ายคอกหมูออกจากหมู่บ้าน แต่ก็ยังดื้อแพ่งไม่ปฏิบัติตามหนังสือลงนามแต่อย่างใด จึงอยากจะขอให้เจ้าหน้าที่ อบต.ยอดแกงมา ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ด้วยเนื่องจากมีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ด้าน นางสาหร่าย อัมพร วรพันธ์ ประธาน อสม.ตำบลยอดแกง ซึ่งพักอาศัยอยู่ติดกับคอกเลี้ยงสุกร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อหลายปีก่อน ตนเองยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากกลิ่มเหม็นของมูลสุกร อยู่เช่นกัน จึงได้พูดคุยกับ นางสาหร่าย หรเขต ผู้ประกอบการเลี้ยงสุกร โดยได้รับคำตอบว่า ขอเวลาในการเลี้ยงลูกหมูให้โต เพื่อจะได้นำเงินที่ได้จากการขายลูกหมูไปเป็นค่าสินสอดแต่งงานขอลูกสะใภ้ให้กับบุตรชาย เมื่อขายลูกหมูได้แล้วก็จะทำการย้ายแม่พันธุ์หมูออกไปจากหมู่บ้านให้ แต่ก็ไม่เคยทำตามคำพูดเพียงสักครั้งเดียว ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมา ยังถามตนเสมอว่า "อยู่แถวนี้ไม่เหม็นขี้หมูบ้างเลยหรือ ทนอยู่ได้ไง"
ต่อมา นายสมพงษ์ ม่วงกล่ำ นายก อบต.ยอดแกง พร้อมด้วย นายนิกร กั้วเจริญ นางพินพร ถิตย์บุญครอง รองนายกฯ ส.ต.ท.สมหวัง คนประเสริฐ ปลัด อบต.นายสุรชัย ภูมิครสาร รอง ปลัดฯ และคณะได้ลงพื้นที่เดินทางไปตรวจสอบคอกเลี้ยงหมูของ นางสาหร่าย หรเขต อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 18 ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ พบว่าคอกเลี้ยงหมู่ ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน มีแม่พันธุ์ จำนวน 3 ตัว กำลังตั้งครรภ์ และมีลูกหมู จำนวน 13 ตัว รวมลูกหมูและแม่พันธุ์ จำนวน 16 ตัว คอกหมู่ตั้งอยู่ติดกับรั้วของศูนย์พัฒนาเด็กบ้านหนองหญ้าปล้อง ห่าง รพ.สต.ยอดแกงเพียง 50 เมตร ห่างจากวัดบ้านหนองหญ้าปล้องแค่ 100 เมตร รอบข้าง รายล้อมบ้านเรือนประชาชน
โดยคณะผู้บริหาร อบต.ยอดแกง ได้พูดคุยทำความเข้าใจหลักการเลี้ยงสุกร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และบุคคลรอบข้าง ว่าควรเลี้ยงสุกรให้ห่างจากชุมชนอย่างไรบ้าง และขอให้ทำการย้ายคอกสุกร ออกจากชุมชน ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข อบต.ยอดแกง เคยมาตรวจสอบ และมีการลงนามข้อตกลงให้ทำการย้ายออกไปเลี้ยงนอกชุมชนแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลง ทำให้เกิดปัญหาส่งกลิ่มเหม็นชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาโดยตลอด
นอกจากนี้ คณะผู้บริหาร อบต.ยอดแกง ยังได้ให้โอกาสผู้ประกอบการในการดำเนินการย้ายคอกเลี้ยงหมูออกจากชุมชนไป โดย นางสาหร่าย หรเขต รับปากว่า ยินดีให้ความร่วมมือ เพียงแต่ขอเวลา 4 เดือน จะย้ายคอกเลี้ยงหมูออกไปจากหมู่บ้านทันที เมื่อคณะบริหาร อบต.ยอดแกง ได้สอบถามชาวบ้านผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนว่า ยินดีให้เวลาเตรียมตัวแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการหรือไม่ เช้าบ้านตอบว่าครั้งนี้ หากจะย้ายคลอกหมูออกไปจากชุมชนจริง ชาวบ้านก็ยินดีให้เวลาดำเนินการ แต่เมื่อครบ 4 เดือน คือวันที่ 1 พ.ค.2567 ต้องไม่มีหมูอยู่คอกที่หมู่บ้าน แม้แต่เดียว
นอกจากนี้ ในระหว่างที่ขอเวลาทำการย้ายก่อน 4 เดือน ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการกำจัดมูลพิษทางสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด