กรมส่งเสริมการเกษตร สั่งการเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย 10 จังหวัดภาคใต้ เบื้องต้น เกษตรกรได้รับผลกระทบ จำนวน 2,230 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 11,244.50 ไร่
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากอิทธิพลร่องมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง
ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 10 จังหวัด (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2566) ได้แก่ จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี ระนอง ตรัง ยะลา นราธิวาส และจังหวัด สุราษฎร์ธานี โดยได้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้วทั้ง 10 จังหวัด
กรมส่งเสริมการเกษตรมีความห่วงใยประชาชน ตลอดจนพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะในจังหวัดที่ประสบภัยจัดชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ประสบภัย เพื่อเยี่ยมเยียน ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่เกษตรกรที่ประสบภัย และเร่งสำรวจพื้นที่ประสบภัยภายหลังน้ำลด และบันทึกข้อมูลลงในระบบข้อมูลเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืชแล้ว จำนวน 7 จังหวัด
ผลการสำรวจพบว่า เกษตรกรได้รับผลกระทบ จำนวน 2,230 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย จำนวน 11,244.50 ไร่ แยกเป็น ข้าว จำนวน 7,219.25 ไร่ พืชไร่และพืชผัก จำนวน 2,908.75 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 1,116.50 ไร่ คาดว่าจะใช้วงเงินช่วยเหลือ จำนวน 19,709,956.50 บาท
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) ของกรมส่งเสริมการเกษตรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ได้จัดเตรียมชีวภัณฑ์ (ไตรโคเดอร์มา) ไว้ให้เกษตรกรใช้ฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรหลังน้ำลด รวมทั้งสิ้น 34,000 กิโลกรัม สามารถใช้ควบคุมโรคพืชในนาและสวนผลไม้ได้ 34,000 ไร่ โดยใช้ในอัตราไตรโคเดอร์มา 1 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ 1ไร่