นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นคำร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณาส่งเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีดำเนินการตามโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้แก่บุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน มีลักษณะเป็นการสร้างความเสียหาย และสร้างภาระแก่งบประมาณประเทศ รวมทั้งส่งผลกระทบต่อระบบการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว และกรณีรัฐบาลตราพ.ร.บ. เงินกู้ 5 แสนล้าน เพื่อนำไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 140 ประกอบพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2560 มาตรา 53 หรือไม่ ว่า ขณะนี้ผู้ตรวจฯอยู่ระหว่างสอบถามความชัดเจนของรัฐบาลในการดำเนินนโยบาย และสอบถามความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแนวนโยบายดังกล่าวเพื่อนำมาประมวลเข้ากับข้อกฎหมายว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร หลังจากได้รับข้อมูลการชี้แจงของรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆเรียบร้อยแล้ว จะมีการประชุมเพื่อหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์และดูข้อกฎหมายว่านโยบายนี้เป็นอย่างไร เบื้องต้นขอความเห็นทางรัฐบาลไปเมื่อใด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้แจ้งขอรายละเอียดไปแล้วรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบาย การปฏิบัติตามนโยบาย โดยอยู่ระหว่างรอรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆให้ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น เพื่อนำมาประมวลและวิเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งตามระเบียบปฏิบัติให้เวลาชี้แจงประมาณ 30 วัน ส่วนการพิจารณาของผู้ตรวจฯมีแนวทางหลังได้รับข้อมูลอย่างไร นั้น ถ้าข้อเท็จจริงครบถ้วน การพิจารณาดูข้อกฎหมายคงใช้เวลาไม่นาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและความเห็นของหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ จะพยายามให้ได้ผลการพิจารณาออกมาโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องสำคัญ และมีผลกระทบต่อประชาชน
สำหรับความเป็นห่วงกรณีที่รัฐบาลเตรียมออกกฎหมายกู้เงินจะกระทบกับการพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และมองว่าเศรษฐกิจประเทศไม่ได้ย่ำแย่จนต้องดำเนินนโยบายนี้ ต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร จึงจะนำไปสู่ข้อเสนอแนะที่ถูกต้องได้ เมื่อถามว่า ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าขัดกับกฎหมายจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะ มีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ ถ้าไม่ขัดกับกฎหมายก็ต้องยุติเรื่อง ถ้าขัดกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ต้องส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ทั้งนี้จำเป็นต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติม ถ้าต้องการความคิดเห็นเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความรอบคอบ เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญก็อาจเชิญหน่วยงานมาพิจารณาและวิเคราะห์ข้อมูลและข้อกฎหมายร่วมกันได้ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งเรื่องไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดทำคำชี้แจงข้อมูลการดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัล เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2566 โดยจะครบ 30 วันในช่วงเดือนมกราคม 2567 หลังจากนั้นผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีการประชุมปรึกษาหารือดูข้อมูลและข้อกฎหมาย หากพบว่าไม่ขัดก็ยุติเรื่องส่วนหากขัดก็จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยต่อไป