อาเต๋าเซียนพระพันล้าน เปิดกรุพระสมเด็จโตอายุนับร้อยปี ใต้ฐานรูปเหมือนพบพระสมเด็จรองพิมพ์นับร้อยองค์ นำมามอบให้วัด ตะคร้ำเอน จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งหมดปล่อยเช่าองค์ล่ะ 1 หมื่นบาท เพื่อนำเงินไปสร้างอุโบสถหลังใหม่ ที่สร้างจากไม้สักทองทั้งหลังมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ด้านชาวบ้านแห่งส่องเลขใต้ฐานพระพบเลข ร.ศ.24 เตรียมนำไปเสี่ยงโชค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดตะคร้ำเอน ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี นายอำพล ถาวรโลหะ (อาเต๋าเซียนพระพันล้าน) อายุ 83 ปี ผู้เก็บรักษารูปปั้นเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี หน้าตัก 29 นิ้ว สร้างปี ร.ศ. 24 รวมอายุนับร้อยปี ขึ้นรถแห่จากหน้าเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น อยู่ห่างจากวัดตะคร้ำเอนประมาณ 10 กิโล โดยตลอดเส้นทางมีนางรำกว่า 50 คน รำหน้าขบวนสมเด็จโต ข้างทางมีชาวบ้านยืนรอร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก เพื่อนำมามอบให้กับวัดตะคร้ำเอน นำมาเก็บรักษาไว้ให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชา
ภายหลังจากมาถึงวัดตะคร้ำเอน ทางเจ้าหน้าที่ของวัดประมาณ 10 คน ได้ช่วยกันหารูปปั้นเหมือนสมเด็จโตลงจากรถเพื่อนำไปประดิษฐานไว้ที่อุโบสถเพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ หลังจากนั้นได้มีพิธีเปิดกรุใต้ฐานรูปปั้นของสมเด็จโต โดยพบว่าใต้ฐานนั้นมีพระสมเด็จที่ทางสมเด็จโตได้บรรจุไว้อยู่ในห่อผ้านับร้อยองค์ หลังจากนั้นได้มีมีการเปิดให้เช่าพระสมเด็จในราคาองค์ละ 10,000 บาท เมื่อเปิดให้เช่าไม่นานก็มีคนสนใจเข้ามาเช่าบูชากันเป็นจำนวนมาก โดยเงินทั้งหมดที่ได้นั้นจะมอบให้กับทางวัดเพื่อนำไปสร้างอุโบสถหลังใหม่ที่ทำจากไม้สักทองทั้งหลังมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท โดยจะใช้ระยะเวลาในการสร้างประมาณสามปี
ซึ่งพระองค์ดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ร.ศ.24 ก่อนที่สมเด็จโต จะมรณภาพลง ขณะเดียวกันชาวบ้านได้เข้ามามองดูที่บริเวณใต้ฐานรูปปั้นเหมือนของสมเด็จโต ได้นำเลขปี ร.ศ.24 นำไปเสี่ยงโชคเชื่อว่าเลขดังกล่าวนั้นเป็นเลขมงคลน่าจะให้โชคได้ในงวดที่จะถึงนี้
ต่อมาเวลา 13.39 น. วันเดียวกันทางวัดได้มีพิธี วางศิลาฤกษ์ พระอุโบสถหลังใหม่ โดยมีพลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอำเภอท่ามะกา นักการเมืองในพื้นที่ ชาวบ้าน ได้เดินเดินทางมาร่วมในพิธีการวางศิลาฤกษ์ในครั้งนี้
พระครูวิสาลกาญจนกิจ (หลวงพ่ออนันต์ เขมฺจิตฺโต) รองเจ้าคณะอำเภอท่ามะกาและเจ้าอาวาสวัดตะคร้ำเอน วัดตะคร้ำเอน ตำบลท่าเรือพระแท่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้นมานั้นเพราะว่าหลังเดิมเวลามีการประกอบพิธี หรือกิจกรรมต่างๆ โดยคนที่มานั่งสมาธิในพระอุโบสถ ซึ่งในเวลาเดียวกันก็จะมีกิจกรรมบวชพระ ทำให้มีเสียงดังรบกวนเวลาคนมานั่งสมาธิหรือปฏิบัติธรรม จึงได้สอบถามกับญาติโยมซึ่งญาติโยมก็เห็นด้วยว่าน่าจะสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้นมาเพื่อแยกกันระหว่างบวชพระ กับการทำกิจกรรมเพราะว่าในวัดจะมีคนเข้ามาทำบุญเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งในการสร้างพระอุโบสถหลังนี้จะสร้างขึ้นจากไม้สักทองทั้งหลัง โดยใช้งบประมาณอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี
นายอำพล ถาวรโลหะ (อาเต๋าเซียนพระพันล้าน) อายุ 83 ปี บอกว่า สำหรับพระสมเด็จโตนั้นองค์นี้เป็นองค์ที่ 9 และเป็นองค์สุดท้ายแล้วที่ตนเก็บรักษาไว้เพราะองค์ก่อนหน้านั้นได้นำไปมอบให้วัดต่างๆ ทั้ง 3 ภาค ซึ่งก็ขาดอยู่ภาคเดียวก็คือภาคตะวันตก ก็เลยนึกถึงจังหวัดกาญจนบุรี และได้ประสานมาที่วัดและทางหลวงพ่อก็ได้มาดูพระที่บ้านของตน ก็อยากจะเชิญรูปปั้นเหมือนของสมเด็จโตมาไว้ที่วัดเพื่อให้คนได้กราบไหว้ เนื่องจากพระที่สร้างด้วยสมเด็จโตจริงๆ มีเพียงแค่เก้าองค์เท่านั้น ซึ่งจะมีโอกาสได้ร่วมบุญกับสมเด็จโตนั้นเป็นโอกาสที่หาได้ยากอีกทั้งยังเป็นปณิธานของสมเด็จโตอีกด้วย ซึ่งใต้ฐานรูปปั้นเหมือนของสมเด็จโตนั้นน้อยคนที่จะรู้ว่ามีพระสมเด็จ ที่สมเด็จโตนั้นนั้นบรรจุไว้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพลง ซึ่งพระสมเด็จจำนวนนี้จะมอบให้กับทางวัดเพื่อนำไป ให้ญาติโยมเช่าบูชาเพื่อนำเงินที่ได้ไปก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ อีกทั้งพระทั้งหมดนี้ตนเองจะไม่ใช้คำว่าพระสมเด็จวัดระฆัง แต่จะใช้คำว่า สมเด็จโตคู่แผ่นดิน เพราะเป็นพระที่สมเด็จโตสร้างเองกับมือ.
/////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน