ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แถลงการร์ตอบ 6 ข้อ-บอกนายกฯ หมดเวลาที่จะมาสร้างวาทกรรม
09 พ.ย. 2560

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่มี นายศรีสุวรรณ จรรยา เป็นเลขาธิการ ได้ออกแถลงการ เรื่อง ตอบคำถามที่ไม่ควรถาม 6 ข้อของ "บิ๊กตู่" อย่าเผลอซ้ำรอยเสียสัตย์เพื่อชาติก็แล้วกัน โดยระบุ ตามที่นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้โยนหิน ตั้งคำถามถึงอนาคตการเมืองไทย 6 ข้อเมื่อวานนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอติงว่า  หมดเวลาที่จะมาสร้างวาทะกรรมเพื่อกลบเกลื่อนกระแสขาลงของตนเอง ที่สะท้อนผ่านโพลที่เคยมีกระแสนิยมจาก 78.4 % เหลือเพียง 52 % อยู่ในขณะนี้ เพราะผลงานตลอดกว่า 3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการเข้ามายึดอำนาจและบริหารราชการแผ่นดินแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากอยากรู้จริงๆ เกี่ยวกับอนาคตการเมืองไทยจะเป็นอย่างไรนั้น สมาคมฯขอตอบคำถามเป็นข้อ ๆ ให้ดังนี้

คำถามที่ 1 การที่จะมีพรรคการเมืองใหม่ๆ หรือนักการเมืองหน้าใหม่ๆ หรือไม่นั้นไม่สำคัญเท่าการเป็นนักการเมืองต้องกล้าเปิดเผยตัวเองออกมาให้ประชาชนได้เลือก ดีกว่ามีนักการเมืองพวกอีแอบที่ไม่ยอมรับความจริงว่าเป็นนักการเมือง เพราะนักการเมืองถึงจะชั่วจะดีประชาชนก็สามารถตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์ได้

คำถามที่ 2 คสช.ไม่มีสิทธิที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองใด ต้องวางตัวเป็นกลางเท่านั้น เพราะ คสช.และแม่น้ำ 5 สายเป็นผู้วางกฎ ระเบียบใหม่ของสังคม หาก คสช. อยากจะสนับสนุนพรรคการเมืองใดเป็นการเฉพาะก็ขอให้ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด ณ บัดนี้

คำถามที่ 3 สิ่งที่ คสช.และรัฐบาลนี้ได้ดำเนินการไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประชาชนมองไม่เห็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติเลย ดังนี้ -การแก้ไขปัญหาที่อ้างว่าหมักหมมมานาน ด้วยการรื้อใหม่ ทำใหม่ การวางแผนงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เป็นระยะสั้น กลาง ยาว อาทิ การแก้ไขปัญหา IUU , ICAO ฯลฯ นั้นเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาบนยอดภูเขาน้ำแข็งที่ใช้ประชาชนเป็นข้ออ้างเท่านั้น แต่กลับเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มนายทุนใกล้ชิดรัฐบาล อีกทั้งเป็นการสร้างปัญหาใหม่เพิ่มมากกว่าเดิม และไม่เห็นด้วยกับการให้มียุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ ที่ขาดกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน

คำถามที่ 4 ตลอดระยะเวลากว่า 85 ปีของระบอบประชาธิปไตยของไทย หากการจัดตั้งรัฐบาลต้องคำนึงถึงเสียงส่วนใหญ่หรือฉันทามติของประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยไม่มีมือที่สามหรืออำนาจแฝงมาคอยควบคุมการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลในยุคใด พ.ศ.ใด ก็สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้เพราะนิสัยคนไทยชอบรักสงบ เว้นแต่พวกที่อยากจะมีอำนาจโดยไม่ผ่านการเลือกตั้งเท่านั้น ที่มักชอบใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญขึ้นมาเป็นใหญ่
โดยเอาประชาชนมาเป็นข้ออ้าง

คำถามที่ 5 รัฐบาลและการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยที่ผ่านมาของไทย แม้จะขาดประสิทธิภาพ ขาดธรรมาภิบาลไปบ้าง แต่เมื่อถึงเวลาครบวาระประชาชนก็สามารถที่จะใช้สิทธิในการเลือกตัวแทนของตนขึ้นไปเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติและตรวจสอบได้ คนไหนดีประชาชนก็เลือกกลับมาได้ คนไหนไม่ดีประชาชนก็ไม่เลือกเข้ามา แต่การพัฒนาประเทศที่ไม่มีความต่อเนื่องที่ผ่านมาเพราะ คนที่อยาก
มีอำนาจไม่อยากผ่านการเลือกตั้งต่างหาก 

คำถามที่ 6 ข้อสังเกตเพื่อพิจารณา เหตุที่พรรคการเมือง นักการเมืองออกมาเคลื่อนไหว คอยด่า คสช., รัฐบาล, นายกรัฐมนตรี บิดเบือนข้อเท็จจริงในการทำงานในช่วงนี้อย่างมากผิดปกตินั้น ก็เพราะประชาชนขาดความเชื่อถือ เชื่อมั่น คสช., รัฐบาล, นายกรัฐมนตรี ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องหันกลับไปทบทวนตัวเองบ้างว่าเคยสัญญาอะไรไว้กับประชาชนแล้วทำไม่ได้บ้าง นายกฯไม่ต้องมาถามประชาชนว่าเป็นเพราะอะไร แต่ควรกลับไปศึกษาอดีตเมื่อปี 2535 ว่า "การเสียสัตย์เพื่อชาติ" นั้นมันคุ้มหรือไม่ต่างหาก

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...