ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
กาฬสินธุ์-ร้องบุกรุกให้เช่าทำกินที่ดินสาธารณะ
10 ม.ค. 2567

ชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ บุกรุกดินสาธารณะประโยชน์ปล่อยเช่าปีละ 30,000 บาท กว่า 80 ไร่ ผู้ร้องเผย ปิดทางน้ำทำนา ข้าวตายเสียหายกง่า 300,000บาท  ขณะที่คนเช่าช่วงอ้างไม่รู้ว่าเป็นที่ดินรัฐ เช่าทำปีละ 30,000 บาท และยังอ้างถูกขโมยน้ำทำนา เทศบาลหลักเมืองเตรียมแจ้งความผู้บุกรุก และเร่งแก้ปัญหาด้วยการขุดคลองกั้นเขตปัองกันการบุกรุก


(9 ม.ค.67) นายเทียม บุญน้อย อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 11 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พาผู้สื่อข่าวเดินดูคลองน้ำสาธารณะที่ถูกปิดไม่ให้น้ำไหลผ่าน เพื่อที่จะได้ผันน้ำจากลำคลองเข้าที่นาของตนในการทำนาปรัง

นายบุญเทียม เปิดเผยว่า ปกติถึงเวลาทำข้าวนาปรัง ตนก็จะผันจากหนองมาลูนลำผ่านลำคลองสาธารณะไปจรดกับที่นาของตนที่มีอยู่ 2 แปลงๆละ 15 ไร่ รวม 30 ไร่

แต่เมื่อปีที่แล้ว 2566 ได้มีบุคคลที่อ้างว่าได้เช่าที่ดินว่างเปล่า (ที่ดินสาธารณะประโยชน์) กับ นายวัน ไม่ทราบนาสกุล ชาวบ้านหัวหนอง ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เข้ามาทำกินด้วยการทำนาปลูกข้าว นาปรัง บริเวณติดกับที่ดินของตน ซึ่งดูจากโฉนดแล้ว ที่ดินบริเวณดังเป็นที่ดินสารธารประโยชน์ และยังได้ปิดทางน้ำจากหนองมาลูน และปิดกลั้นทางน้ำบริเวณลำคลองที่ไหลไปจรดที่นาของตน ทำให้ข้าวขาดน้ำ แห้งตายทั้ง 30 ไร่ สูญเสียไปกว่า 300,000 บาท 

ตนจึงเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.กมลาไสย เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2566 ต่อมา ฝ่ายบริหารเทศบาลหลักเมือง และปลัดอำเภอกมลาไสยได้ลงมาตรวจสอบและพูดคุยกับคนบุกรุกที่ดินสาธารณะประโยชน์ ครั้งนั้น ผู้บุกรุกยินดีออกจากที่สาธารณะประโยชน์แห่งนี้ แต่ว่าข้าวได้ปลูกในที่ดินสาธารณะประโยชน์ไปแล้ว เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว ข แค่มาเก็บเกี่ยวผลผลิตรก็จะออกไปโดยไม่เข้ามาบุกรุกอีก ซึ่งทางเทศบาลก็ได้อะลุ้มอล่อยให้

แต่พอมาถึงเวลาทำข้าวนาปรังปีนี้ บุคคลดังกล่าวก็ให้คนเข้า ทำนาอีก และยังทำการปิดทางน้ำบริเวณลำคลอง เพื่อไม่ให้น้ำไหลไปถึงที่นาของอีก จึงได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม อ.กมลาไสยอีกครั้ง พร้อมกับเดินทางไปทวงถาม เทศบาลหลักเมือง ถึงข้อตกลงกับผู้บุกรุกเม่อปีที่แล้ว 2566)

เบื้องต้น ดาบตำรวจประเสริฐ ดอนสมจิตร นายกเทศบาลตำบลหลักเมือง อ.กมลาไสย เจ้าของพื้นที่ เปิดเผยว่า ครั้งที่ผ่านมาเทศบาลได้เข้าแก้ไขปัญหาอย่างละมุนละม่อม แต่ผู้บุกรุกก็ยังดื้อแพ่ง ในครั้งนี้จึงต้องนำข้อกฎหมายเข้ามาใช้โดยมอบหมายนิติกรของเทศบาลดำเนินคดีตามข้อกฎหมาย ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดินสาธาณประโยชน์ของรัฐ เตรียมเสนองบประมาณขุดลอกคลองกันแนวเขตเอาไว้เพื่อป้องกันการบุกรุก และยังเป็นการกักเก็บน้ำหน้าฝนเอาไว้เพื่อการเกษตรในหน้าแล้ง ซึ่งบริเวณดังกล่าวทำนาปีไม่ได้เนื่องจากถึงหน้าน้ำก็จะท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบกับผู้ร้องเรียน ได้มีผู้บุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้เช่าช่วงที่ดินสาธารณะโยชน์บริเวณดังกล่าวในราคา 30,000 บาทต่อปี ในการทำนาปรัง พร้อมกับแจ้งผู้สื่อข่าวว่า ตนถูกขโมยน้ำจากคลองสาธารณะและยังได้สั่งห้ามมิให้ใครผันน้ำจากคลองสารธารณะซึ่งตนเป็นคนขุดไว้ ทั้งๆที่ น้ำในลำคลองดังกล่าว ชาวนาในละแวกที่ใกล้เคียงสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้

คิวสัมภาษณ์ 1.นายเทียม บุญน้อย (ใส่เสื้อลายสก๊อต สวมหมวก
2.นายประสงค์ แสงโทโพธิ์ 56 ปี สวมเสื้อสีเขียว สวมหมวก (ผู้บุกรุกที่ดินสาธารณะทำกิน)

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...