นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองหลังจากนายกรัฐมนตรีตั้งคำถาม6ข้อว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีมีสิทธิ์ที่จะถามความเห็นในประเด็นสาธารณะส่วนใครจะตอบหรือไม่ตอบจะเห็นด้วยหรือไม่อย่างไรเป็นสิทธิเสรีภาพของแต่ละบุคคลแต่ในมุมมองของตนมีข้อสังเกตด้วยความห่วงใยในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่อยากจะบอกความในใจว่าในขณะที่คนไทยยังไม่สร่างจากความเศร้าเสียใจจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพก็ต้องมาทุกข์ใจกับความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังเป็นท่าทีหักโค่นกันแบบเอาเป็นเอาตายเหมือนในอดีต ตนเชื่อว่าประชาชนจะมีความสุขและมีความหวังมากกว่านี้ถ้าทุกฝ่ายจะลดราวาศอกลงบ้าง ปรับเปลี่ยนท่าทีจากเผชิญหน้าเป็นหันหน้าพูดจากันอย่างให้เกียรติให้เครดิตกันและกัน หลีกเลี่ยงคำพูดแบบรังเกียจเดียดฉันท์สร้างความเกลียดชัง(hate speech)
ตนคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องตั้งหลักเริ่มต้นใหม่โดยทุกฝ่ายเริ่มจากแม่น้ำ5สายฝ่ายการเมืองสื่อมวลชนและทุกภาคส่วนปรับเปลี่ยนท่าทีเสียใหม่ตั้งแต่ตอนนี้ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ดีตามแนวทางปฏิรูปการเมืองอย่างสร้างสรรค์ใช้เหตุใช้ผลอย่างสุภาพและเคารพความเห็นต่างโดยไม่ต้องแตกแยกแบ่งฝ่ายไม่ดีกว่าหรือจึงขอฝากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาไตร่ตรองเพื่อให้ประเทศของเราเดินหน้าสู่อนาคตที่ดีกว่าไม่วนเวียนอยู่ในวังวนของความขัดแย้งเป็นปฏิปักษ์เหมือนในอดีตที่ผ่านมา