นายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอศรีราชา พร้อมด้วยปลัดอำเภอ ,เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ,ทหาร และตำรวจ บุกขึ้นตรวจสอบบนเขาหุบพระจันทร์ หมู่ 4 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งจากนายเชาวลิต พลอยงาม อายุ 68 ปี ชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ว่ามีขบวนการตัดไม้พะยูงบนเขาดังกล่าว จึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวขึ้นไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบผู้ต้องสงสัยบนหุบเขาดังกล่าว 2 คน แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนต่างก็แยกย้ายกันวิ่งหลบหนี โดยสามารถจับกุมไว้ได้ 1 คน ชื่อนายบุญสอน อุตรักษ์ อายุ 40 ปี มาจาก อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนเพื่ออีกคนที่หลบหนีไปได้ ทราบแต่เพียงชื่อเล่นว่า”ยา” มาจาก จ.ฉะเชิงเทราด้วยกัน นอกจากนั้นยังพบของกลางเป็นโซ่เลื่อย ,เชือก และชุดเสื้อผ้าพักแรมด้วย
จากการตรวจสอบบนหุบเขาดังกล่าวพบว่าไม้พะยูง ถูกตัดโค่นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพบต่อไม้เกือบ 20 ต้น ซึ่งมีการเลื่อยเป็นท่อนแล้ว จำนวน 9 ท่อน และยังเป็นต้นที่ถูกตัดไว้แต่ยังไม่ได้เลื่อยเป็นท่อนอีกจำนวนมาก และในครั้งนี้คาดว่าปริมาณไม้พะยูงที่ถูกตัดโค่นไม่น้อยกว่า 2 ลูกบาศก์เมตร
นายวรญาณ กล่าวว่า ขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงครั้งนี้มีด้วยกัน 2 ทีม โดยทีมแรกได้เข้ามาตัดไม้ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว (28 พ.ย.) และมีการขนไม้ออกไป 1 เที่ยวรถกระบะส่วนชุดที่ 2 กำลังจะเข้ามาขนไม้ที่เหลือลงมาจากหุบเขา เพื่อรอขนออกไปแต่มาถูกจับกุมเสียก่อน และไม้ในครั้งนี้หากหลุดรอดไปและนำไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศจะมีมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท
สำหรับพื้นป่าเขาหุบพระจันทร์ เป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์และมีไม้พะยูงอยู่เป็นจำนวนมากและมีลำต้นขนาดใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงแอบขึ้นมาตัดอีก ส่วนผู้ต้องหารายนี้ ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายบุญสอน ผู้ต้องหา กล่าวว่า มีคนรู้จักให้ตนพร้อมเพื่อนมาชี้เป้าไม้พะยูงที่หุบเขาดังกล่าว โดยหากมาทำแล้วจะได้ค่าจ้าง 5,000-10,000 บาท ซึ่งช่วงนี้ว่างไม่ได้ทำงานอะไรจึงได้เดินทางมากับเพื่อนเป็นครั้งแรก จนมาถูกจับกุมดังกล่าว