ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
14 ลูกจ้างเป็นปลื้ม หลัง มท.1 สั่งปลดนายก ทม.บุรีรัมย์ เหตุไม่ต่อสัญญาจ้าง
15 ม.ค. 2567

ตามที่พนักงานจ้างตามภารกิจพนักงานจ้างทั่วไป และพนักงานจ้างเหมาบริการของเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จำนวน 14 คน เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดบุรีรัมย์เมื่อเดือนตุลาคม 2564 โดยระบุว่า นายสกล ไกรรณภูมินายกเทศมนตรีเมืองเมืองบุรีรัมย์ ลงนามเลิกจ้างและไม่ต่อสัญญาจ้างอย่างกะทันหันแบบไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ทำให้พวกตนได้รับความเดือดร้อน ทั้งๆ ที่ไม่ได้กระทำความผิดอะไร

หลังรับเรื่องร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ได้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนทางราชการหรือไม่ ในฐานะที่จังหวัดมีบทบาทในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายที่กำหนด โดยเปิดโอกาสให้ทางเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จากนั้นจังหวัดบุรีรัมย์ได้สรุปผลการพิจารณา

โดยระบุว่า การที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ไม่ยอมต่อสัญญาจ้างให้กับพนักงานจ้าง ไม่เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติการต่อสัญญาจ้างพนักงานจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นการเลิกจ้างโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อการให้บริการสาธารณะเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงได้ทำหนังสือเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทยขอให้พิจารณาและสั่งให้นายสกลไกรรณภูมิ พันจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์

ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งที่ 3970 / 2566ให้นายสกล ไกรรณภูมิ นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์พ้นจากตำแหน่ง โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 73/1 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562  ตามที่คณะกรรมการสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วมีความเห็นว่า การกระทำของนายสกล ไกรรณภูมิเป็นการจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ฯลฯ

ในคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566ยังระบุว่า การโต้แย้งคำสั่งนี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครอง หรือส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองที่มีเขตอำนาจ ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำสั่งตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

หลังจากหนังสือกระทรวงมหาดไทยได้ส่งไปถึงจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว นายจำเริญ แหวนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ลงนามในคำสั่งที่ บร 0023.4/439  ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ถึงนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เรื่องรายงานขอให้พิจารณาและสั่งให้นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์พ้นจากตำแหน่งโดยอ้างถึงคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 3970 / 2566 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อ นายสกล ไกรรณภูมิ พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์แล้ว นายคมกริช  สายชมภู ปลัดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์สืบแทน จนกว่าจะมีนายกเทศมนตรีคนใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 21 มีนาคม 2567 หรือช้าสุดไม่เกินวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 โดยคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศให้ประชาชนในเขตเลือกตั้งและผู้สนใจลงสมัครเป็นนายกเทศมนตรีบุรีรัมย์ได้รับทราบล่วงหน้าถึงกำหนดการวันรับสมัครและวันลงคะแนนเลือกตั้ง

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ทันทีที่คำสั่ง มท.1 ปลด นายสกล ใกรรณภูมิ พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เผยแพร่ออกไป พนักงานจ้าง ซึ่งเคยร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้างจากเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ต่างแสดงความปิติยินดีและฝากขอบคุณไปถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้คืนความเป็นธรรมให้กับพวกเขา และไปแสดงความขอบคุณต่อศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ที่รับเรื่องร้องเรียนมาตั้งแต่ต้นจนกระทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ได้สรุปข้อเท็จจริงเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย และมีคำสั่งปลดนายกเทศมนตรีบุรีรัมย์ในท้ายที่สุด

“พวกเราขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอขอบคุณจังหวัดบุรีรัมย์และศูนย์ดำรงธรรม ที่ได้คืนความเป็นธรรมให้กับพวกเรา ซึ่งในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาพวกเราต้องอยู่กันอย่างขมขื่น ตกงานและขาดรายได้ เมื่อการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทยปรากฏผลออกมาเช่นนี้ เราก็ได้แต่หวังว่าอีกไม่นาน พวกเราจะได้มีโอกาสกลับเข้าไปทำสัญญาจ้างใหม่อีกครั้ง” ตัวแทนลูกจ้างรายหนึ่งกล่าว

**********************************************

 

 

 

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...