ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ศาล เหล่ากาชาดจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้าประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี พร้อมใจกันถวายพานพุ่มดอกไม้สด เนื่องในวันยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ
วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2567 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อม นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ศาล เหล่ากาชาดจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้าประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี พร้อมใจกันถวายพานพุ่มดอกไม้สด เนื่องในวันยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี และได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์พระสงฆ์ 10 รูปโดยมีพระวิเทศโพธิคุณ (สุเทพ อกิญจโน ป.ธ.3,ดร.) ประธานฝ่ายสงฆ์
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2548 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้วันที่ 25 เมษายนของทุกปี เป็น “วันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” และเป็นวันรัฐพิธี แทนวันจันทร์ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 อันเป็นการนับทางจันทรคติ โดยให้มีการวางพวงมาลาและสักการะ แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ และได้กำหนดใหม่ ให้วันที่ 18 มกราคม ของทุกปีเป็น “วันยุทธหัตถี” และเป็นวันรัฐพิธีแทนวันที่ 25 มกราคมของทุกปี โดยให้มีการวางพานพุ่มสักการะ แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการเช่นกัน การที่มีการเปลี่ยนแปลงวันทั้งสองดังกล่าว พบว่าการนับวันทางจันทรคติของวันกระทำยุทธหัตถีเดิมที่ตรงกับวันจันทร์ เดือน 2 แรม 2 ค่ำ จุลศักราช 954 ที่กำหนดเป็นวันที่ 25 มกราคมนั้น คลาดเคลื่อน จึงได้มีการเปลี่ยนใหม่ให้ตรงกับความเป็นจริง คือ เป็นวันที่ 18 มกราคมดังกล่าว ดังนั้น ในปัจจุบันวันที่ 18 มกราคม จึงถือเป็น “วันยุทธหัตถี” หรือ “วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้กล่าวถวายสดุดีว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยลำดับที่ 18 แห่งราชอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา เสด็จพระราชสมภพที่เมืองพิษณุโลก เมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2098 ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ราชวงศ์สุโขทัยและสมเด็จพระวิสุทธิกษัตริย์พระราชชนนี ราชวงศ์สุวรรณภูมิ ทรงมีพระสุพรรณกัลยา เป็นพระพี่นาง และมีพระเอกาทศรถ เป็นพระอนุชา ตลอดระยะเวลาที่เสด็จขึ้นครองราชย์ 15 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2133 จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 ทรงอุทิศเวลาเกือบตลอดรัชสมัยให้กับการศึกสงครามเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความยิ่งใหญ่ให้กรุงศรีอยุธยาตลอดมา ทำให้ทรงไม่มีพระมเหสีและ พระราชโอรสธิดา ดังนั้น เมื่อเสด็จสวรรคต พระเอกาทศรถจึงได้เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อมา ขณะพระชนมายุได้ 35 พรรษา หลังทรงครองราชย์ได้เพียง 2 ปี ในวันที่ 18 มกราคม ปีพุทธศักราช 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา จนได้รับชัยชนะส่งผลให้พระเกียรติยศและชื่อเสียงของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเกริก้องระบือเลื่องลือไกลไปทั่วทิศานุทิศ เป็นเคารพยำเกรงของแว่นแคว้นต่างๆ ส่งผลให้มีหัวเมืองเจ้ามาสวามิภักดิ์อย่างไม่ขาดสาย ทำให้พระบรมเดชานุภาพขยายกว้างขวางแฟ่ไพศาลทั่วปฐพี
เนื่องในวันประวัติศาสตร์อันสำคัญ ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงได้รับชัยชนะจากากรทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ข้าพระพุทธเจ้า นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในนามของข้าราชการทุกฝ่าย และพสกนิกรชาวจังหวัดชลบุรีทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมกันมาชุมนุม ณ มณฑลพิธีในวันนี้ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย และทรงสถาปนาความเข้มแข็งมั่นคง แก่ประเทศไทยมาในอดีตกาลอันนำมาซึ่งความสงบสุขและเกียรติภูมิของอาณาจักร มาถึงกาลปัจจุบัน
การทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ อนุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นวีรกรรมครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย จนกลายเป็นภาพลักษณ์ของความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของชาวไทยที่มีความสมัครสมาน สามัคคี เสียสละ ต่อสู้ เพื่อรักษาเอกราชของชาติให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกตราบเท่าทุกวันนี้