ภายหลังที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกำหนดจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสตูล เพื่อติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเด็นการพัฒนาด่านการค้าชายแดนและยกระดับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยกับรัฐที่ติดชายแดนไทยของมาเลเซีย สู่การเป็นเมืองคู่แฝด (Twin cities) เพื่อการพัฒนาที่ยังยืนที่ด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งอยู่ติดกับด่านวังเกลียน รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ในวันพรุ่งนี้นั้น (22 ม.ค.67)
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านที่ค้าขายอยู่ที่ตลาดนัดวังประจัน ตั้งอยู่บริเวณหน้าด่านพรมแดนวังประจัน ต่างสะท้อนว่า ปัจจุบันตลาดแห่งนี้เงียบเหงาลงมาก ส่วนหนึ่งมาจากสภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ทั้งฝั่งไทยและมาเลเซีย ที่ออกมาเพื่อป้องกันปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องของโรคระบาด หรือแรงงานหลบหนีเข้าเมือง ประกอบกับในอดีตชาวมาเลเซียสามารถเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าในฝั่งไทย และคนไทยเองก็สามารถข้ามไปจับจ่ายซื้อสินค้าบริเวณหน้าด่านวังเกลียนของรัฐเปอร์ลิสได้ โดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ตข้ามแดน แต่ปัจจุบันการจะข้ามไปซื้อสินค้าจะต้องใช้พาสปอร์ตจึงจะเข้าไปได้ จึงส่งผลกระทบต่อการค้าขายบริเวณหน้าด่านฯ ของทั้ง 2 ฝั่งไปด้วย
ซึ่งการที่รองนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่เพื่อมาติดตามและเตรียมจะพัฒนาด่านวังประจันให้มีความทันสมัย รองรับการคมนาคม และการขนส่ง ก็เห็นด้วย เพราะเชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลฮารีรายอ ตรุษจีน ปีใหม่ ซึ่งการเดินทางค่อนข้างหนาแน่น จะช่วยระบายรถและนักท่องเที่ยวได้เร็วยิ่งขึ้น แต่ก็ยังแอบกังวลว่าจะกระทบต่อพื้นที่ทำมาหากิน พื้นที่ค้าขายหรือไม่ ส่วนเรื่องที่อยากร้องขอ คืออยากให้ขยายเวลาเปิด-ปิดด่านออกไปอีกเล็กน้อย เพราะตอนนี้ด่านฯ เปิดทำการเวลา 06.00-18.00 น. ในช่วงที่มีการเดินทางจำนวนมาก นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาทางด่านวังประจัน ขากลับมักจะเดินทางผ่านด่านสะเดา เพราะจะได้มีเวลาท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งการที่มีรถเข้า-ออกเพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงการใช้จ่ายในพื้นที่ก็จะสะพัดด้วย นอกจากนี้อยากให้มีสถานที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาจับจ่ายซื้อของ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาหลายคันรถบัส บางครั้งต้องไปหาที่จอดและเดินเข้ามาเป็นระยะทางค่อนข้างไกล และหากเป็นไปได้ อยากขอให้ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตข้ามแดนระยะทาง 2 กิโลเมตร จากด่านฝั่งไทย และ 2 กิโลเมตร จากด่าน วังเกลียน ของรัฐเปอร์ลิส เพื่อให้คนไทยและชาวมาเลเซีย สามารถไปมาหาสู่และแลกเปลี่ยนซื้อขายกันได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจบริเวณชายแดนของทั้ง 2 ประเทศดียิ่งขึ้น