ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
ตลาดยาหม่องเดือด! สมุนไพรวังพรม ทุ่มงบ 150 ล้าน เปิดโรงงานใหม่ โหมสู้ศึกทั้งไทย-เทศ
27 ม.ค. 2567

สมุนไพรวังพรม ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยมากว่า 30 ปี ประกาศเดินหน้ายกระดับศักยภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทุ่มงบลงทุนกว่า 150 ล้านบาท เปิด “โรงงานสมุนไพรวังพรมแห่งใหม่” เพื่อเป็นทั้งศูนย์กลางการผลิตและศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มประสิทธิภาพมาตรฐานระดับสากล โดยมีเป้าหมายในการส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดและผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศในอนาคต โดยได้รับเกียรติจากคุณจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในพิธี และคุณประนอม วังพรม ประธานบริษัท สมุนไพรวังพรม จำกัด ทำพิธีตัดริบบิ้นเปิดโรงงาน พร้อมด้วยพันธมิตรธุรกิจ ได้แก่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) โดยคุณสุวรรณี ภู่นภานนท์ President of Healthcare & Specialties Business ตลอดจนคู่ค้าจากประเทศเกาหลีใต้ ประเทศลาว รวมถึงคู่ค้าชาวไทยจากทั่วประเทศตบเท้าร่วมแสดงความยินดี  ตอกย้ำความมุ่งมั่นตามแผนพันธกิจของบริษัทในการก้าวไปสู่การเป็นสินค้าแบรนด์ไทยที่สามารถครองใจคนทั่วโลก ตั้งเป้ากำลังการผลิตเพิ่ม 50% ดันสัดส่วนการขายต่างประเทศ 50% ส่งผลรายได้โต 500 ล้านบาท ในอีก 3 ปี

วัชรีภรณ์ วังพรม ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท สมุนไพรวังพรม จำกัด กล่าวว่า “สมุนไพรวังพรมได้รับการยอมรับจากลูกค้ารุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน กว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา ธุรกิจของเราเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยไลน์อัพสินค้าครอบคลุมหลากหลายกลุ่มทั้ง กลุ่มยาหม่องสมุนไพร กลุ่มน้ำมันนวดสมุนไพร กลุ่มยาดมสมุนไพร และยาแคปซูลสมุนไพรเป้าหมายของเราต้องการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงวางเป้าให้ผลิตภัณฑ์ของสมุนไพรวังพรมขึ้นแท่นเป็นยาสามัญประจำบ้าน ผลิตภัณฑ์ของเราจึงต้องการการรองรับมาตรฐานการส่งออก GMP/PICs ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยาของประเทศในสหภาพยุโรป มาตรฐานเดียวกับโรงงานผลิตยาสามัญ ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่มีเป้าหมายปรับปรุงมาตรฐานการผลิตของผู้ผลิตยาแผนโบราณขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงผู้ผลิตที่ผลิตยาในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำในประเทศ จึงเป็นที่มาของการลงทุนเปิดโรงงานแห่งใหม่ ที่จะทำให้บริษัทฯ สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นับเป็นการก้าวเข้าสู่ความสำเร็จอีกขั้นของสมุนไพรวังพรมในระดับสากล”

ปัจจุบันสัดส่วนยอดจำหน่ายโดยรวมของสมุนไพรวังพรม มีกลุ่มยาหม่องสมุนไพรครองสัดส่วนอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะยาหม่องเสลดพังพอนและยาหม่องไพล ทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ครองสัดส่วน 93% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด อัตราการเติบโตของยอดขายกลุ่มสินค้ายาหม่องและน้ำมันนวดในปี 2566 ที่ผ่านมา คิดเป็น 12% จากปีก่อน และคาดว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้นเป็น 15% เนื่องจากมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดมากขึ้น สำหรับสัดส่วนการขายแบ่งเป็น ตลาดในประเทศ 70% โดยเป็นยอดขายในเขตกรุงเทพฯ 40% และในต่างจังหวัด 60% ส่วนตลาดต่างประเทศมีสัดส่วนยอดขายที่ 30% ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี ในช่วงที่ผ่านมา จึงหันมามุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการส่งออกเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าจนได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ทำให้สามารถเปิดตลาดในต่างประเทศได้มากขึ้น ได้แก่ กลุ่มประเทศ CLMV เกาหลีใต้ จีน รัสเซีย ประเทศกลุ่มคาบสมุทรอาหรับ ในปีนี้เรามีเป้าหมายในการขยายตลาดสู่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเพื่อรองรับความต้องการของสินค้าที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจขยายโรงงานใหม่เพิ่ม

โดยโรงงานแห่งใหม่ดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ใช้งบประมาณรวม 150 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนใหญ่ในรอบ 20 ปี แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่

  • โซนที่ 1 เป็นพื้นที่ผลิตยา มีห้องแยกย่อยกว่า 40 ห้องเป็นระบบปิดทั้งหมดและเป็นห้องคลีนรูม ติดเครื่องปรับอากาศทั้งหมดทุกห้อง ใช้มาตรฐาน GMP/PICs ในการผลิต รวมถึงใช้ระบบน้ำ RO (มาตรฐานเดียวกับน้ำดื่มขวด Pet ) ในการล้างภาชนะ ตลอดจนคำนึงถึงการประหยัดพลังงานโดยการติดตั้งโซล่าร์เซลล์ให้กำลังไฟกว่า 120 Kw ช่วยลดค่าไฟ ประหยัดพลังงานและลดการปล่อยคาร์บอน และเสริมเครื่องจักรเต็มไลน์ผลิต
  • โซนที่ 2 โซนสำนักงาน ที่ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของทีมงานฝ่ายบริหาร มีห้องประชุม 2 ห้องพื้นที่รับประทานอาหารภายใน
  • โซนที่ 3 คือโกดังเก็บสินค้า เพื่อสามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

ในช่วงระยะแรกคาดว่าโรงงานแห่งนี้จะมีกำลังในการผลิตสินค้าสมุนไพรได้เดือนละ 1 ล้านขวด จากเดิมที่เคยผลิตได้ปีละ 6.5 ล้านขวด คาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น 50% เพื่อรองรับตลาดในอีก 5 ปี

ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าสินค้าแบรนด์ไทยบ้านๆ ก็สามารถพัฒนาจนสามารถได้รับการยอมรับมาตรฐานระดับโลกได้ ซึ่งแบรนด์สมุนไพรวังพรม จะมุ่งมั่นพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์เป็นตัวอย่างสินค้าสมุนไพรไทยที่ผลิตด้วยมาตรฐานระดับสากล ซึ่งนอกจากทั้ง 3 โซนที่ได้รับการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ยังมีพื้นที่เหลือสำหรับพัฒนาเฟส 2 เป็นโรงงานเครื่องสำอางในอนาคตอีกด้วย

สำหรับทิศทางแนวโน้มการเติบโตของตลาดสมุนไพร ทางแบรนด์มองว่าตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลของกรมการแพทย์แผนไทยฯ คาดการณ์ในปี 2566 ที่ผ่านมาว่าตลาดสมุนไพรไทยจะมีมูลค่าตลาดไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท ในขณะที่ Euromonitor คาดการณ์ว่า ในปี 2569 ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 59,500 ล้านบาทเลยทีเดียว ทั้งนี้เนื่องมาจากคนยุคใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติมากขึ้น รวมไปถึงชาวต่างชาติที่มีความชื่นชอบสมุนไพรไทยเป็นทุนเดิม สำหรับทิศทางตลาดในปี 2567 นี้คาดว่าคนทั่วโลกจะหันมาใช้ยาสมุนไพรเพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากทิศทางตลาดอุตสาหกรรมยาทั่วโลกในปีนี้มีแนวโน้มจะปรับราคายาขึ้นไปอย่างต่ำ 20% ส่งผลให้อุตสาหกรรมสมุนไพรไทยได้รับอานิสงส์ไปด้วย เป็นโอกาสดีที่จะยกระดับและผลักดันผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยที่มีมาตรฐานในระดับสากลให้กระจายออกสู่ตลาดโลกมากขึ้น

“เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งด้วยทิศทางของตลาดที่มีแนวโน้มเป็นบวก ประกอบกับจุดแข็งของสมุนไพรวังพรมที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเสมอมา โดยเฉพาะยาหม่องที่ลูกค้าชอบใช้ในการนวดด้วยสูตรเฉพาะตัวทำให้นวดได้ลื่นโดยไม่ร้อนแสบผิวแต่เย็นสบายและหายเมื่อย ลูกค้าที่ทำงานในไร่นาหรืองานกลางแจ้งที่ร้อนและฝุ่นเยอะ ยังใช้ยาหม่องของเราทาช่วยเรื่องผดผื่นและคลายร้อนด้วย อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของยาหม่องของเราคือกลิ่นที่ไม่มีใครเหมือน แม้จะมีสินค้าเลียนแบบที่พยายามทำแพคเกจจิ้งให้คล้ายกัน แต่ลูกค้าที่ใช้ประจำจะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่สมุนไพรวังพรม ซึ่งเราพยายามพัฒนาปรับดีไซน์แพคเกจจิ้งให้โดดเด่นด้วยสีเขียวเข้มสไตล์วังพรมกับสินค้าทุกประเภทของเรา ในปีนี้เรายังมีแผนพัฒนาออกสูตรใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าเจาะเข้าถึงหลากหลายกลุ่มทั้ง กลุ่มคนรักสุขภาพ-ออกกำลังกาย, กลุ่มผู้สูงอายุ Boomer,กลุ่มเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน กลุ่ม Gen X,Y และเริ่มขยายเข้ากลุ่ม Gen Z โดยเฉพาะ First jobber มากขึ้น”วัชรีภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีความมั่นใจว่าเป้าหมายรายได้ปีนี้จะแตะระดับ 350 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 15% ด้วยปัจจัยสนับสนุนสำคัญนอกเหนือจากการที่บริษัทมุ่งเน้นการผลิตสินค้าคุณภาพ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงการพัฒนาสูตรใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการผลิตเข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังเน้นพัฒนาช่องทางการขายและปูพรมกิจกรรมทางการตลาดเต็มรูปแบบให้การขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการเจาะตลาดต่างประเทศมากขึ้น

ปัจจุบันช่องทางการจัดจำหน่ายของสมุนไพรวังพรม มีจำหน่ายที่ 7-11 ร้านขายยาโมเดิร์นเทรด Boots, Pure, Save drug, Lab Pharmacy, Fascino, Lotus, Makro, Tops care และรวมไปถึงร้านขายยาทั่วไปทั่วประเทศ รวมไปถึงแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shoppee, Lazada, LineOA และอีคอมเมิร์ซของบริษัททุกช่องทาง ส่วนลูกค้าไทยในต่างประเทศจะซื้อจาก Amazon รวมไปถึง Asian groceries ในท้องถิ่นต่างๆ และร้านนวดไทยในต่างแดน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...