นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบคำถามประเด็นการดูแลปัญหาเศรษฐกิจ ในงานสัมมนา Thailand 2024 : The Great Challenges เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส หัวข้อ “โรดแมปปี 67 จุดพลุส่งออก-ปลุกเศรษฐกิจดิจิทัล” ที่ห้องฟินิกตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กรุงเทพฯ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงปลายน้ำ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะโดนก่อน แต่เป็นหน้าที่ที่เรารับผิดชอบ ซึ่งถ้าจะแก้ไขได้ต้องแก้ทั้งระบบ โดยกระทรวงพาณิชย์ ใช้นโยบาย ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และขยายโอกาสของรัฐบาล ตั้งแต่ที่ตนรับหน้าที่ก็ทำเลย จัดร้านธงฟ้ากระจายให้มากที่สุดแก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า ไม่ว่าหลักคิดจะเป็นอย่างไรต้องรีบดูแลคนที่จะตายก่อน เพราะเขาไม่รอจนแก้โครงสร้างเสร็จ
แต่ตนก็ได้สั่งการให้อธิบดีกรมการค้าภายในว่าจะแก้อย่างนี้ทุกปีไม่ได้ต้องไปดูโครงสร้างของต้นทุนราคาสินค้า จัดระบบที่เป็นธรรมช่วยแก้ระยะยาว ยึดหลักหาจุดที่สมดุล และตนเห็นด้วยกับท่านนายกฯ เราไม่สามารถอุดหนุนได้ตลอดต้องเปลี่ยนวิธีคิด พรรคเพื่อไทยถึงได้คิดถึงเปลี่ยนการผลิตเอาเทคโนโลยีเข้ามา หาตลาด ซึ่งกระทรวงผลิตก็จะมีข้อมูลของเกษตรกรผู้ผลิต ที่สามารถประเมินได้ เพื่อจัดการมากระจายให้เหมาะสม
และตนได้คุยกับอธิบดี ปลัดกระทรวง ถึงวิธีคิดว่า ที่ผ่านมากระทรวงฯประสบความสำเร็จในการให้คนรับรู้ถึงปัญหา แต่ต้องหาวิธีการในการแก้ไขปัญหา ตนได้รับฉายาว่า รองกอง ซึ่งได้ดูงานหลายกระทรวงฯ อย่างข้าว การพัฒนาพันธุ์ข้าวไทย ที่มีอยู่ใช้มา 40-60 ปีแล้ว ไม่ปรับปรุงผลผลิตไทย 400 กิโลกรัมต่อไร่ เวียดนามทำได้ 700 กิโลกรัมต่อไร่ ที่ยังอยู่ได้เพราะคุณภาพข้าว ต้องมีการวิจัยพัฒนา มันสำปะหลังตลาดต้องการเยอะมาก กล้วยหอมก็เป็นที่ต้องการของญี่ปุ่น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีทั้งพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ ท่านนายกฯสร้างทีมไทยแลนด์ ตนจึงให้นโยบายสร้างทีมพาณิชย์ ร่วมกันบริหารจัดการแก้ไขปัญหา เมื่อวานนี้ตนไปที่ระนองมอบนโยบาย อย่าให้ตนเห็นว่าเอามังคุดมาเทหรือเอาผลไม้มาเทที่ศาลากลาง คุณจะต้องรู้ว่าปีนี้ต้องวางแผนดูดซับผลผลิตเท่าไหร่ เมื่อวานมีการเซ็น MOU มังคุดไปร่วม 60 กว่าล้านบาท หาตลาดรองรับ
และก่อนนี้ได้เดินทางไปจีน ร่วมประชุม CIIE ได้หาเวลาคุยนอกรอบ ทางรัฐบาลบอกว่าต่อไปจีนจะเป็นตลาดของโลก ซึ่งเป็นโอกาสในการส่งออกสินค้าของไทยไปตลาดจีนด้วย และลงลึกไปถึงรายมณฑล เพราะแต่ละมณฑลก็มีประชากรจำนวนมากเป็นตลาดใหญ่ เวลานี้ตลาดจีนตนสบายใจคิดว่าขายอะไรได้อีกหลายหลายอย่าง ได้มากได้เล็กน้อยตนก็เอาหมด และตนเพิ่งกลับมาจากสหรัฐอเมริกา เซ็นสัญญาขายข้าวกับเครื่องปรุงรสได้มา 1,750 ล้านบาท พรรคเพื่อไทยเราเข้ามาบริหารจัดการส่วนหนึ่ง กับอีกส่วนคือบรรยากาศกับทิศทางที่มีอยู่ ตัวเลขส่งออก 3 เดือนสุดท้ายเป็นบวก เอกชนพร้อมจะทำให้เป็นบวกอยู่แล้ว และตนได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ รื้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า ข้อจำกัดกับหลักเกณฑ์ต่างๆที่เป็นปัญหา อย่าง IUU ก็ช่วยแก้ปัญหาให้ประมงไทย ที่ก่อนหน้านี้เดือดร้อนมาก พรรคเพื่อไทยเราเห็นทั้งระบบ คาดว่าการส่งออกจะดีขึ้นในปีนี้
สำหรับกระทรวงพาณิชย์ ตนให้คิดถึงตลาดใหม่ๆ วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ เช่น ตลาดอีคอมเมิร์ซ อีกไม่นานจะได้เห็นกระทรวงพาณิชย์เชิญอินฟลูเอนเซอร์มาช่วย และจะมีอินฟลูเอนเซอร์จากจีนมาร่วมขายสินค้า จะเป็นโมเดลใหม่ และวันที่ 31 มกราคม ที่จะถึงนี้ จะมีการร่วมมือกับซีรีส์วายมาเป็นเครื่องมือ เพราะมีกลุ่มแฟนคลับจำนวนมาก และเป็นซอฟต์พาวเวอร์ด้วย ต้องคิดออกนอกกรอบ เรากำลังหาช่องทางการค้าใหม่ ไม่ใช่หาตลาดแบบเดิม ถ้าทำแบบเดิมก็ได้เท่าเดิม