ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วย นายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า และหัวหน้าชุดสายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่า ส่วนกลาง , นางสาวกนกวรรณ ตรุยานนท์ ผู้อำนวยการส่วนประสานความร่วมมือด้านทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า , นางสาวลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ประจำ สบอ.3 (บ้านโป่ง) รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่า สายที่ 2 ประจำจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมหรือซากสัตว์ป่าควบคุม ของบริษัท สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ รีสอร์ท เลขที่ 40/2 หมู่ที่ 5 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โดยมีนายปิยะบุตร ประสพสุขโชคมณี อายุ 43 ปี เจ้าของ เป็นผู้นำพาตรวจสอบ
โดยคณะเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบสัตว์ป่าควบคุม ตามใบรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมหรือซากสัตว์ป่าควบคุม ชั่วคราว ฉบับลงวันที่ 16 มีนาคม 2566 จำนวน 1 ชนิด คือ สิงโต (Panthera Leo) รวมจำนวนทั้งหมด 11 ตัว (เพศผู้ 5 ตัว เพศเมีย 6 ตัว) พบว่า สามารถตรวจสอบรูปพรรณของสิงโต ได้ครบจำนวน 11 ตัว และสามารถสุ่มตรวจหมายเลขไมโครชิพได้ทั้งหมด 6 ตัว พบว่ามีหมายเลขไมโครชิพถูกต้อง ตรงตามบัญชีที่นายปิยะบุตร ประสพสุขโชคมณี เจ้าของได้แจ้งเอาไว้
และนอกจากนี้คณะเจ้าหน้าที่คณะเจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจสอบ สิงโต เพศเมีย ชื่อเทียร่า อีก 1 ตัว โดยก่อนหน้านี้สิงห์โตตัวดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการฝังไมโครชิพได้ เนื่องอยู่ระหว่างการตั้งท้อง ซึ่งขณะนั้นเจ้าของได้แจ้งการครอบครองเอาไว้แล้ว มาในวันนี้ คณะเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง)จึงได้ร่วมกับนายสัตวแพทย์ ประจำสวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ รีสอร์ท จำกัด ร่วมกันดำเนินการฝังไมโครชิพ หมายเลข 933-076-400-571-787 ให้กับสิงห์โตตัวดังกล่าว
ขณะเดียวกันนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ในจำนวนของสิงโตตามบัญชีการรับแจ้งสัตว์ป่าควบคุมดังกล่าว มีสิงโต เพศผู้ จำนวน 1 ตัว ชื่อ คาลีบ้า หมายเลขไมโครชิพ 933-0764005-13601 ได้ตายลงตั้งแต่วันที่เจ้าของสวนสัตว์ได้แจ้งการครอบครอง
พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ นายปิยะบุตร ประสพสุขโชคมณี เจ้าของ ให้ดำเนินการแจ้งเปลี่ยนแปลงจำนวนสิงห์โตที่มีอยู่ให้ถูกต้อง และให้รีบขออนุมัติทำลายซากสิงห์โตตัวดังกล่าว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ประจำส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ทราบ ตามระเบียบของทางราชการ และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว จึงจะสามารถดำเนินการทำลายซากของสิงโตตัวดังกล่าวได้
///////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน