โฆษกรัฐบาลชูผลงานกระทรวงเกษตรฯ บูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ทหารและตำรวจ ปราบปรามยางพาราเถื่อน ดันราคายางพุ่งถึง 72 บาท/กก.แล้ว คาดรายได้ชาวสวนยางทั้งประเทศ จะเพิ่มขึ้นถึง 76,650 ล้านบาท/ปี
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลของสำนักงานตลาดกลางยางพารา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ราคาประมูลยางพาราประจำวัน ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม จนถึงปลายเดือนมกราคม 2567 เพิ่มสูงขึ้นถึงกิโลกรัม (กก.) ละ 15 บาท จาก กก. ละ 57 บาท เป็นกก. ละ 72 บาท ขณะที่ข้อมูลของการยางแห่งประเทศไทย ระบุราคายาง ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานตลาดกลางยางพารา จ.สงขลา ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 (ไม่อัดก้อน) อยู่ที่ 72.69 บาท/กก. ซึ่งราคายางพาราที่พุ่งสูงขึ้นนี้ เป็นผลจากมาตรการปราบปรามการลักลอบนำเข้ายางพาราเถื่อนอย่างเข้มงวดจริงจังของรัฐบาล
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ด้วยมาตรการปราบปรามการลักลอบนำเข้ายางพาราเถื่อนอย่างเข้มงวดจริงจังของรัฐบาล ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งทำงานอย่างบูรณาการร่วมกับทั้งกระทรวงพาณิชย์ ทหารและตำรวจ เป็นผลให้ราคายางพารา (ยางแผ่นรมควันชั้น 3) ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงปลายเดือนมกราคม 2567 เพิ่มสูงขึ้นจาก กก. ละ 57 บาทเป็น กก. ละ 72 บาท เพิ่มสูงขึ้นถึง กก. ละ 15 บาท โดยพี่น้องชาวสวนยางทั้งประเทศสามารถกรีดยางได้วันละราว ๆ 14 ล้านกิโลกรัม ดังนั้น ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถทำรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนยางเพิ่มขึ้นถึงวันละ 210 ล้านบาท และถ้าตลอดทั้งปี ราคายางไม่ต่ำกว่า กก. ละ 72 บาทเช่นนี้ รายได้ของชาวสวนยางทั้งประเทศก็จะเพิ่มขึ้นถึงปีละ 76,650 ล้านบาททีเดียว
“ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการปราบปรามยางพาราเถื่อน ได้ส่งผลอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ทำให้ช่วยยกระดับราคายางพาราในประเทศขึ้นมาได้เป็นอย่างมาก เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศให้มีรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราอย่างต่อเนื่อง” นายชัย กล่าว