ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
กฟน. จัดพิธีลงนามสัญญาก่อสร้างโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินพระราม 3 ระยะที่ 2
27 พ.ย. 2560

วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2560) นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในฐานะผู้แทนหน่วยงาน ร่วมพิธีลงนามสัญญาโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน โครงการพระราม 3 ร่วมกับ บริษัท อิตาเลียนไทย พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง เข้าร่วมสังเกตการณ์ข้อตกลงคุณธรรม  ณ อาคารสำนักงานใหญ่เพลินจิต การไฟฟ้านครหลวง

ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า กฟน. ในฐานะองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในระดับสากล ได้ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคง และช่วยปรับทัศนียภาพของกรุงเทพมหานครให้สวยงาม  มีความปลอดภัยและพร้อมสู่การเป็นมหานครแห่งอาเซียน ซึ่งการร่วมลงนามในครั้งนี้นับเป็นการแสดงเจตจำนงระหว่าง กฟน. และบริษัทผู้รับจ้างในการดำเนินการก่อสร้างงานด้านโยธา จัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟฟ้าใต้ดินโครงการพระราม 3 ระยะที่ 2 ช่วงสถานีไฟฟ้าถนนตก ถึง สะพานพระราม 9 รวมระยะทาง 4.6 กิโลเมตร มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,942 ล้านบาท โดยมีผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง เข้าสังเกตการณ์การลงนามสัญญาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการดำเนินโครงการของ กฟน.

สำหรับการดำเนินโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินบนถนนพระราม 3 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการลงนามสัญญา ในระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 ช่วงสะพานพระราม 9 ถึงบริเวณเลียบทางพิเศษเฉลิมมหานคร มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,520 ล้านบาท โดยล่าสุดได้ดำเนินการชี้แจงแผนงานเพื่อลดผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ ก่อนเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ทั้งนี้ โครงการสายไฟฟ้าใต้ดินบนถนนพระราม 3 ทั้งระยะที่ 1 และ 2 ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ ครม. มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 ให้อนุมัติวงเงินลงทุนเพิ่ม โดยมีมติให้ 3 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการปทุมวัน จิตรลดา พญาไท (เพิ่มเติม) 2) โครงการนนทรี และ 3) โครงการพระราม 3 เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของ กฟน. ได้ดำเนินการ รวมระยะทาง 214.6 กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2564 ล่าสุดได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 43.5 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 20.3 อยู่ระหว่างดำเนินการ 43.8 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 20.4 และโครงการรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน 127.3 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 59.3 ซึ่ง กฟน.จะบูรณาการแผนงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อลดปัญหาที่ประชาชนจะได้รับ เช่น การปรับแผนการดำเนินโครงการในพื้นที่ที่ทับซ้อนกับ รฟม. กทม. กปน. บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท. เพื่อให้แผนดำเนินการมีความสอดคล้อง และลดปัญหาที่ประชาชนจะได้รับอันเนื่องจากการก่อสร้าง ตลอดจนการประสานงานกับ กสทช. ในการติดตามแผนงานนำสายสื่อสารของผู้ประกอบการทั้งหมดลงดินได้ทั้งหมดอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ กฟน. ได้มีการวางแผนการบริหารจัดการจราจรร่วมกับหน่วยงานที่เป็นเจ้าของพื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อบริหารจัดการการปิดพื้นที่เพื่อเร่งรัดการทำงานให้เสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ เพื่อจะได้บริหารจัดการการจราจรให้สอดคล้องและส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด ซึ่ง กฟน. ได้มีการจัดทำแผนงานประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบความคืบหน้าของการดำเนินโครงการตลอดระยะเวลาดำเนินการ โดยจะมีการลงพื้นที่เพื่อให้ข้อมูลของแผนงานกับประชาชนในพื้นที่ที่จะดำเนินการก่อสร้างหรือใกล้เคียงให้ได้รับทราบก่อนดำเนินการก่อสร้าง โดยหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center โทร 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...