นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก ว่าทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว โดยในรายของ พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มีมูลความผิดทางอาญา โดยได้ร่วมกระทำความผิด กับนายบุญทรง ด้วยการแบ่งหน้าที่กันทำงานโดยช่วยเหลือ มุ่งหมายและเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ซึ่งมิได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนให้เข้ามาทำสัญญาซื้อขาย แต่มีสิทธิเข้าทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ก่อให้เกิด ความเสียหายอย่างร้ายแรง และ ปปช.ได้พิจารณาและมีมติว่า
มีเหตุอันควรสงสัยว่า พ.ต.วีระวุฒิ ร่ำรวยผิดปกติ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ไต่สวน เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยมีนางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ ซึ่งต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติของ พ.ต.วีระวุฒิ,นางสาวชุฏิมา วัชรพุกกะ อดีตคู่สมรส บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ บุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นการชั่วคราวตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 รวมมูลค่า 99,203,133.17 บาท
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2560 ได้พิจารณารายงานผลการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาของทรัพย์สินได้ จึงมีมติว่า พ.ต.วีระวุฒิ มีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควรสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 896,554,760.28 บาท และให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหนร่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สิน รวมมูลค่า 896,554,760.28 บาท ที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน