นับวันสังคมเสื่อมหนัก กัน จอมพลัง ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ช่วยเหลือคุณป้าวัย 56 ปี ถูกหนุ่มคลั่งยาข้างบ้าน ทำร้ายร่างกายกระทืบซ้ำเจ็บสาหัส เหตุแค่ไม่พอใจเพราะถูกถามเรื่องจุดไฟเผาขยะ อีกเคส ช่วยเหลือเด็กชายวัย 11 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆบังคับทำงานหาเงินซื้อยาบ้าให้เสร็จ หากขัดขืนถูกทำร้ายร่างกายนานหลายปี สุดท้าย ทนไม่ไหว ลูกหนีหาแม่แท้ๆช่วยพาร้องกันจอมพลังช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กัน จอมพลัง พร้อมทีมงาน พานางสมปอง สร้อยงาม อายุ 56 ปี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ที่นางสมปอง ถูกนายแดง ซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียงกัน ชกเข้าที่ใบหน้า จนล้มลงกับพื้นก่อนใช้เท้ากระทืบซ้ำหลายครั้ง โดยมูลเหตุมาจากการที่นางสมปอง เห็นว่ามีไฟกำลังไหม้กองขยะอยู่หน้าบ้าน และเกรงว่าไฟจะไปเผาท่อประปาหมู่บ้านจนได้รับความเสียหาย จึงตะโกนถามว่าใครเป็นคนลงมือจุดไฟ จากนั้น นายแดงซึ่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ก็ได้เดินเข้ามาชกเข้าที่ใบหน้าของนางสมปองก่อนกระทืบเข้าที่ใบหน้าอีกหลายครั้ง จนมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ พยายามเข้ามาห้ามห้ามและถ่ายคลิปช่วงเกิดเหตุเอาไว้ได้ ก่อนช่วยกันนำตัวนางสมปองส่งโรงพยาบาล ให้แพทย์ทำการตรวจรักษา ซึ่งผลการตรวจพบว่านางสมปอง มีบาดแผลบวมช้ำที่บริเวณใบหน้าและศรีษะ ปากฉีกเย็บ 3 เข็ม เปลือกตาแตก ใบหน้าบวมปูด ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 3 วันกับ 4 คืน
ซึ่งหลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวของนางสมปองได้เดินทางเข้าแจ้งความ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาได้ ในวันนี้ จึงได้เดินทางเข้ามาติดตามความคืบหน้าของคดี โดยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ได้จัดกำลังชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ลงพื้นที่บ้านของผู้ก่อเหตุ ในพื้นที่ บ้านลำทหาร ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่พบตัวของผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งกระจายกำลังออกติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด
ส่วนอีกกรณี นางสาวกัญญารัตน์ ดาวเจริญพร อายุ 29 ปี พร้อมด้วย น้องเนคไท ลูกชายวัย 11 ปี เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือจากกัน จอมพลัง ให้ช่วยเหลือ กรณี น้องเนคไท ซึ่งอาศัยอยู่กับพ่อแท้ๆ ในพื้นที่ตำบลหนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ถูกพ่อบังคับให้ทำงาน หาเงินมาซื้อยาบ้าให้กับพ่อเสพ รวมถึงยังบังคับให้น้องออกไปซื้อยาบ้ามาให้พ่อเสพที่บ้าน หากลูกปฏิเสธ ก็จะถูกพ่อทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่น้งเนคไทอายุได้ 5 ขวบ กระทั่งถึงปัจจุบันที่น้องเนคไทอายุ 11 ขวบ ก็ยังคงถูกบังคับให้ทำในลักษณะเดิมอยู่ สุดท้าย น้องเนคไททนไม่ไหว จึงแอบหนีมาหาแม่แท้ๆ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองกาญจนบุรี ก่อนจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง และนำไปสู่การเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากกัน จอมพลังดังกล่าว
นางสาวกัญญารัตน์ ซึ่งเป็นแม่ของน้องเนกไท กล่าวว่า ตนเองมีลูกกับผู้ก่อเหตุ 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงอายุ 13 ปี ส่วนน้องเนคไทอายุ 11 ปี ที่ผ่านมาตั้งแต่ตนอยู่กินกับผู้ก่อเหตุ ก็ถูกทำร้ายร่างกายมาตลอด จึงตัดสินใจเลิกรากันไป โดยในตอนแรกตนจะนำน้องไทยมาอยู่ด้วยกัน แต่เนื่องจากยังไม่พร้อมเพราะยังไม่มีงานทำ จึงต้องให้น้องเนคไทอยู่กับผู้ก่อเหตุและย่า ก่อนจะขาดการติดต่อกันไป กระทั่งล่าสุด น้องทนถูกทำร้ายต่อไปไม่ไหว จึงหนีมาหาตนเองและขอให้ช่วยเหลือ นำมาสู่กันเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากกัน จอมพลังในครั้งนี้
เบื้องต้น ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่สถานีตำรวจภูธรหนองรี ให้ออกติดตามจับกุมตัวพ่อของเด็กที่ถูกทำร้ายมาสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ในส่วนของน้องเนคไท ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้าช่วยเหลือ โดยเบื้องต้น จะให้น้องเนคไทไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะให้แม่เดินทางมารับตัวไปอยู่ด้วย ในส่วนของโรงเรียน ได้ประสานให้เด็กเข้าไปเรียนอยู่ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ เพื่อให้สะดวกในการที่แม่จะสามารถเดินทางมาเยี่ยมน้องได้ตลอดเวลา
ในส่วนของผู้ก่อเหตุ จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองรี เดินทางลงพื้นที่ติดตามตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
/////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ – รายงาน