นายกฯ ตั้ง คณะอนุฯ ด้านการตรวจสอบการกระทำอาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ หลัง กฤษฎีกา - ป.ป.ช. เสนอแนะ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต กำหนดเวลา 30 วัน เผย อาจไม่ล่าช้า แต่ต้องรอข้อสรุปก่อน ย้ำชัด ฟังความเห็นจากทุกฝ่าย
วันนี้ (15 ก.พ. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ครั้งที่ 1/2567 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงหนังสือของกฤษฎีกา และข้อเสนอแนะจาก ป.ป.ช. โดยได้อ่านตามอักษรที่มีข้อเสนอมาจึงมีมติให้ดำเนินตามข้อหารือของกฤษฎีกา และข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. โดยการตั้งคณะทำงานมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการรวบรวมข้อเท็จจริงตามข้อสังเกตต่าง ๆ มอบหมายกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อขยายขอบเขตการพัฒนาเพื่อเกิดความโปร่งใส และป้องกันการทุจริตในโครงการ เพื่อให้เป็นไปตามข้อสังเกตต่าง ๆ โดยมีมติตั้งคณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบการกระทำอาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ และคณะกรรมการทุกท่านเห็นด้วยกับรายชื่อนี้โดยจะเริ่มดำเนินการทันที และกำหนดระยะเวลาไว้ 30 วันเมื่อเสร็จสิ้นจะมีการนัดประชุมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. เข้าอย่างเป็นทางการ และพิจารณาเดินหน้าโครงการเพื่อเสนอต่อ ครม. ต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพิ่งเห็นข้อสังเกตจากกฤษฎีกา และ ป.ป.ช. ในรายละเอียด จึงขอพิจารณาศึกษาอยู่ ตนเองก็ให้เวลาไปศึกษาเต็มที่ และพิจารณาตามข้อเท็จจริง หากมีข้อสังเกตการณ์ หรือข้อเสนอแนะอย่างไร ก็ให้บอกมา และให้ทุกภาคส่วนได้มีการถกเถียงในวงกว้าง วันนี้ไม่มีการตัดการประชุม ให้ทุกท่านที่อยากเสนอแนะได้พูดคุยกันอย่างครบถ้วน แต่ข้อมูลของ ป.ป.ช. เพิ่งมาถึงมือ และหลายข้อมูล เป็นข้อมูลลับซึ่งวันนี้ได้มีการเปิดเผย หลายท่านจึงขอนำไปศึกษาก่อน
ส่วนความคิดเห็นของ ป.ป.ช. ที่ไม่อยากให้มีการกู้เงิน แต่อยากให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีมากกว่า นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทุกอย่างจะพิจารณาใหม่หมด ให้เสนอแนะวงกว้าง ต้องพูดคุยเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ GDP ต่ำ ดอกเบี้ย เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า คณะกรรมการฯ บอกว่าต้องประชุมอีกครั้งก่อนครบ 30 วัน เพื่อความโปร่งใสและทุกฝ่ายจะได้เสนอแนะอย่างชัดเจนอีกครั้ง ยืนยันว่า จะมีอะไรคืบหน้าในอีก 30 วัน
ส่วนถ้าไม่สามารถออกเป็น พ.ร.บ. กู้เงินได้ทันในปีนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่ทราบก็ต้องฟังความคิดเห็นว่าจะเป็นวิธีไหน
ส่วนการบอกประชาชนที่รอโครงการนี้อยู่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันคือข้อเท็จจริง ที่ถ้าเร่งทำไป แล้วจะมีหลายภาคส่วนที่ถามว่าทำไมต้องเร่ง ถ้าเร่ง ก็กลัวเป็นการกระทำไม่ถูกต้อง เราเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน ถ้ามัวแต่ทำเรื่องเก่า ๆ ก็จะเข้าไปสู่วังวนเดิม ๆ เรื่องเหล่านี้ถ้าเกิดต้องช้าไป เพื่อความถูกต้อง เพื่อให้ได้รับฟังอีกทีในวงกว้าง ตนเองเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
สำหรับไทม์ไลน์จะขยับไปอีกใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า คงไม่ถึงปี 68 คงไม่ขนาดนั้น และย้ำว่า คำว่าช้าแต่ชัวร์ ก็ค่อนข้างเป็นไปได้ ตนเองไม่แน่ใจว่าช้าหรือไม่ เพราะเราไม่รู้ว่าข้อเสนอแนะคืออะไร ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถอธิบายได้ ตนเองเชื่อว่าก็น่าจะเดินต่อได้เร็ว
ส่วนข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. ที่บอกให้แจกกลุ่มเปราะบางจะมีการทบทวนอีกครั้งหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทบทวนไปแล้ว มีหลายคนแนะนำมาว่าอย่าแจกคนรวย เหตุผลที่ล่าช้า เพราะต้องตอบได้ว่าคนรวยมีเงินเท่าไหร่ ตนเองก็ถูกต่อว่ามาอีก แล้วจะให้ตัดเกณฑ์ที่ตรงไหน นโยบายครั้งแรกบอกมาว่าจะแจกทุกคนที่อายุ 17 ปีขึ้นไปแต่เมื่อรับฟังความคิดเห็นก็บอกให้แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ก็ขอให้บอกเป็นเอกฉันท์หน่อย ว่ากลุ่มเปราะบางคือเท่าไหร่