ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
กลุ่มพัฒนาหนุนอดีต ผวจ.เลย ลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.เลย
19 ก.พ. 2567

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 19 ก.พ.67  ณ ศาลาประชาคมจังหวัดเลย ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย จ.เลย  กกต.เลย เปิดรับสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย หลังนายธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ อดีตนายก อบจ.เลย 5 สมัยซ้อน ยื่นหนังสือลาออกกับนายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 ทำให้ตำแหน่งนายกฯว่างลง  จึงต้องมีการเลือกตั้งใหม่ โดยผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ ผอ.กกต.อบจ.เลย แต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง และออกประกาศให้มีการรับสมัครเลือกตั้งขึ้นภายใน 60 วัน

นายสาธิต พันธุ์ชอุ่ม ผอ.การการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ทาง กกต.จว.เลย กำหนดรับสมัคร 5 วัน คือวันที่ 19-23 ก.พ.67  และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 31 มี.ค.57 ในช่วงเช้าของวันนี้มีผู้สมัครคนเดียวคือนายชัยธวัช เนียมศิริ อายุ 63 ปี อดีต ผวจ.เลย ในนาม”กลุ่มพัฒนา” ใช้วุฒิการศึกษาศิลปะศาสตร์ บัณฑิตรัฐศาสตร์ ทำให้ได้หมายเลข 1 โดยมีกลุ่มพัฒนาทั้งอดีตนายก อบต.เลย สมาชิก สจ.จ.เลย อีกร้อยละ 95 ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย และเพื่อไทย 3 คน มาร่วมเป็นกองเชียร์  ให้การสนับสนุน 

นายชัยธวัช เนียมศิริ อดีต ผวจ.เลย เปิดเผยว่า เหตุที่ตนต้องอาสาสมัครรับเลือกตั้งนายกฯครั้งนี้ เนื่องจากตนเห็นว่าเคยมาตำรงตำแหน่งที่ จ. เลย หลายรอบ ย้ายไปย้ายมา ครั้งสุดท้ายก็มาเกษียณราชการที่ จ. เลย มีภริยาและมีบ้านอยู่ที่ จ.เลย อีกด้วย ระยะเวลา ประสบการณ์บริการราชการ 40 ปี ก็น่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ดี ตนรู้ทั้งพื้นที่ รู้จักประชาชนเป็นอย่างดี มีสุข ทุกข์ มีความเดือดร้อนที่ไหน กลุ่มใดสามารแก้ปัญหาให้ตรงจุดถูกคนถูกที่ สิ่งที่ตนต้องเข้ามาบริหารเพื่อช่วยเหลือ แก้ปัญหาคือด้านคุณภาพชีวิตของประชาชนให้กินดี อยู่ดี มีงานทำ มีรายได้ รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมต้องดีขึ้น  ส่วนความหนักใจหรือไม่นั้น  ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นใคร และตนเป็นคนใหม่ป่ายแดงทางการเมืองก็ตาม จะไม่หนักใจอะไร เพราะตนเข้ามาด้วยความจริงใจจริงจัง ขึ้นอยู่กับเสียงประชาชนว่าจะให้โอกาสตนบริการหรือไม่ตนเคาระสิทธิของประชาชนเป็นที่ตั้ง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...