นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข้อท้วงติงถึงกระบวนการคัดเลือกผู้ที่สมควรได้เป็น กกต.จากการประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่า อาจขัดกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้เป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผยว่า ตามกฎหมายระบุให้เป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผย ถ้าทางศาลเปิดเผยได้ว่าใครลงคะแนนให้ใครก็ไม่มีปัญหา เพราะทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากดำเนินการตามกฎหมายก็ไม่มีปัญหา ซึ่งหลักของคำว่าเปิดเผยคือต้องทราบว่าใครลงคะแนนให้ใคร ไม่ใช่เพียงแค่ว่าเดินไปหย่อนบัตรลงคะแนนแล้วคือการลงคะแนนแบบเปิดเผย เพราะการลงคะแนนโดยวิธีหย่อนบัตรที่เราไปเลือกตั้งรัฐธรรมนูญก็เขียนไว้ว่าเป็นการลงคะแนนลับ แต่ถ้าศาลบอกว่าเปิดเผยได้เพราะบัตรบ่งบอกว่าผู้พิพากษาแต่ละท่านลงคะแนนให้ใครแล้วเปิดเผยออกมาก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เช่นเดียวกับการลงคะแนนในสภาที่ใช้วิธีการกดปุ่ม ขณะนั้นก็ไม่ทราบว่าใครลงคะแนนให้ใคร แต่สามารถตรวจสอบได้จากบันทึกการลงคะแนน จึงเรียกว่าเป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผย อย่างไรก็ตามต้องดูกฎหมายให้รอบคอบเพราะถ้ามีปัญหาว่าสรรหาไม่ถูกต้องก็จะเป็นอุปสรรคต่อไปในวันข้างหน้า ผู้พิจารณาก็ต้องทำด้วยความถูกต้อง ถ้าจะต้องมีการลงคะแนนใหม่ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไร
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงการปรับฐานข้อมูลสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ว่า มั่นใจว่าจะมีฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันส่งให้กกต.ตามกรอบเวลาที่พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนด 90 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 5 มกราคมปีหน้า โดยเข้าใจว่านายทะเบียนพรรคการเมืองและหัวหน้าพรรคสามารถเซ็นได้ แต่ต้องดูถ้อยคำของกฎหมายอีกครั้งว่าต้องจัดประชุมใหญ่หรือไม่ หากมีปัญหาก็คงต้องขอขยายเวลาเพื่อรอการประชุม แต่ตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องขอขยายเวลา โดยพรรคได้เตรียมทุกอย่างทั้งเรื่องข้อมูลสมาชิกพรรค ข้อบังคับพรรคและการจัดประชุมใหญ่ เมื่อมีการปลดล็อคก็สามารถเดินหน้าได้ทันที