ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดกาญจนบุรี(เกษตรที่สูง)พร้อมภาคีเครือข่ายลงพื้นที่บ้านจะแกซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร เพื่อเก็บตัวอย่างพันธุ์ข้าว แจกต้นผลไม้ ให้ความรู้การขยายพันธุ์ต้นผลไม้ เพื่อลดปัญหาการขนส่ง ลดต้นทุน ต่อยอดเป็นอาชีพให้ชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาประจำหมู่บ้านจะแก ม.6 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายคงกฤช อินทแสน ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดกาญจนบุรี (เกษตรที่สูง) นำทีมเจ้าหน้าที่กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมการข้าว และกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกันเชิงรุกในการลงพื้นที่ให้ความรู้ด้านการปศุสัตว์ ประมง และพืช แก่ประชาชนในพื้นที่บ้านจะแก ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล (โดยอยู่ห่างจากอำเภอสังขละบุรีประมาณ 90 กม ติดตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก)และมีความยากลำบากในการเดินทางเนื่องจากตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร 

โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่จากกรมการข้าวจะได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างพันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่ชาวบ้านปลูกในพื้นที่เพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นถิ่น และนำไปศึกษาลักษณะดีและด้อย เพื่อทำการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไป นอกจากนั้นได้สอบถามข้อมูลจากชาวบ้านในการทำไร่ข้าว และนาข้าว ในเรื่องของแมลงศัตรูพืช และโรคระบาด ปัญหาและอุปสรรค รวมทั้งปริมาณน้ำที่ใช้ในการเกษตร ที่พบในรอบปีที่ผ่านมา เป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อวางแผนการช่วยเหลือในปีการผลิตที่กำลังจะมาถึง พร้อมกันนี้ยังได้ให้ความรู้เรื่องโรคระบาด(โรคขอบใบแห้ง โรคไหม้ข้าว)แมลงที่เป็นศัตรู(หนอนกอข้าว หนอนแมงวันเจาะยอด หนอนกระทู้คอรวง เพลี้ยไฟ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล แมงวันเจาะยอดข้าว)  ที่มักพบในนาข้าว พร้อมทั้งให้ความรู้ในการป้องกันและการกำจัดอย่างถูกวิธี 

พร้อมทั้งแนะนำพันธ์ข้าวที่เหมาะในพื้นที่ข้าวพันธุ์ กข 79 ได้รับรองพันธุ์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งมีลักษณะเด่นคือเป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยว 112 – 118 วัน เมื่อปลูกโดยวิธีปักดำ ลำต้นสูงประมาณ 102 เซนติเมตร ลักษณะทรงกอตั้ง ลำต้นแข็ง ใบสีเขียว ใบธงตั้งคอรวงโผล่เล็กน้อย คุณภาพการสีดีมากสามารถผลิตเป็นข้าวสารได้ 100% ชั้น 1 ข้าวสุกมีลักษณะนุ่ม ผลผลิตสูงเฉลี่ย 809 กิโลกรัมต่อไร่ มีศักยภาพสามารถให้ผลผลิตสูง 1,182 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งสูงกว่าข้าวนุ่มพันธุ์อื่นๆ และต้านทานต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและโรคไหม้

นอกจากนั้นยังได้จัดให้มีการสาธิต และสอนวิธีการขยายพันธุ์ต้นผลไม้ ทั้งส้มโอ มะม่วง และทุเรียน โดยเปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่สนใจได้ลงมือเสียบยอดทุเรียนและมะม่วง โดยสอนขั้นตอนการทำและเทคนิคโดยเจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการฯลงมือเป็นวิทยากรสอนด้วยตนเอง รวมทั้งได้มอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองจำนวนกว่า 80 ต้นแก่ชาวบ้านที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ ซึ่งเป็นพันธุ์ทุเรียนที่ศูนย์ส่งสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร กาญจนบุรี (เกษตรที่สูง)ได้ทำการขยายพันธุ์เพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรและประชาชนที่สนใจได้นำไปปลูกไว้เพื่อบริโภคและทำการขยายพันธุ์เพื่อเป็นอาชีพต่อไปในอนาคต

นายคงกฤช อินทแสน ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร กาญจนบุรี (เกษตรที่สูง) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าโครงการในวันนี้เป็นการบูรณาการร่วมโดยมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรีเป็นแม่งาน ประกอบด้วยหน่อยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นการทำกิจกรรมลักษณะเพิ่มประสิทธิ์ภาพการผลิตสินค้าทางการเกษตร ซึ่งเป็นงบประมาณที่ได้รับจากกองทุนไฟฟ้าฯ ในส่วนของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร ได้มาให้ความรู้ในเรื่องการขยายพันธุ์พืชและการดูแลพันธุ์พืชให้กับชาวบ้านที่นี่ เนื่องจากบ้านจะแกตั้งอยู่ในป่าลึกการที่จะนำพันธุ์พืชเข้ามาจากข้างนอกเป็นเรื่องที่ยากลำบากเนื่องจากเส้นทางคมนาคมที่ยากลำบาก จึงเห็นว่าถ้าชวบ้านสามารถขยายพันธุ์พืชได้เอง นอกจากจะลดต้นทุนแล้วในอนาคตชาวบ้านสามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดในการขยายพันธุ์พืชที่มีในชุมชนยกตัวอย่างเช่นทุเรียนร้อยปี ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุพื้นเมืองที่ลักษณะดี คือลูกใหญ่ เม็ดลีบเนื้อหนา รสชาติหวานมัน ซึ่งมีการพบเพียงไม้กี่ต้นในพื้นที่ตำบลไล่โว่ ซึ่งจะในอนาคตอาจเป็นการสร้างอาชีพที่ต่อยอดได้จากความรู้ที่ได้รับในวันนี้ก็เป็นไปได้ 
 
บ้านจะแก เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวรมานานกว่า 300 ปี โดยชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรโดยการทำนา และทำไร่ และปลูกพืช ผลไม้ เพื่อการบริโภค ไม่ได้ขายเนื่องจากปัญหาเส้นคมนาคมที่ยังมีความยากลำบาก
                             //////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน