นาวาอากาศเอก อธิคุณ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา อพท. ได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการลงไปประสานงานและประสานการใช้อำนาจและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษเพื่อให้เกิดความยั่งยืน มีเป้าหมายในการเป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อส่งมอบแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมาตรฐานให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
อพท. ได้นำเสนอพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ได้ประกาศแล้ว 9 พื้นที่ โดยได้นำอัตลักษณ์และความโดดเด่นของแต่ละพื้นที่มานำเสนอ ได้แก่
นาวาอากาศเอก อธิคุณ ยังเปิดเผยว่า อพท. ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสร้างและกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น และให้เกิดความยั่งยืนโดยมีผลงานอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษให้เกิดความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล โดยใช้แนวทางตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) จนได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลกและได้รับรางวัล Green Destinations Top 100 Stories จำนวน 5 แห่ง ได้แก่
พื้นที่ตำบลในเวียง จังหวัดน่าน พื้นที่ตำบลเมืองเก่า จังหวัดสุโขทัย พื้นที่ตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย พื้นที่เกาะหมาก จังหวัดตราด พื้นที่คลองท่อม จังหวัดกระบี่ และล่าสุด “เชียงคาน” ได้รับเหรียญเงินแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก Green Destinations Award แห่งแรกในอาเซียนอีกด้วย
นอกจากนี้ อพท. ยังร่วมพัฒนาและยกเมืองสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network : UCCN) จำนวน 4 เมือง ได้แก่ สุโขทัย (เมืองสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน เพชรบุรี (เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร) เชียงราย (เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ) สุพรรณบุรี (เมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี)
รวมทั้งยังได้ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการท่องเที่ยวสู่การเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จนได้รับรางวัล PATA Gold Awards 5 รางวัล ได้แก่
“นับจากนี้ อพท. ยังคงเตรียมปักหมุดการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยยึดหลักการพัฒนาตามแนวทาง การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) เชื่อมโยงพื้นที่พัฒนาที่สำคัญเพื่อสร้างความสมดุลทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องตามจุดเน้นของแผนแม่บทภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยจะทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางในการประสาน ส่งเสริม และสนับสนุนทุกภาคี การพัฒนาให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวในเชิงบูรณาการ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมแบบ Co-Creation & Co-Own คือ ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิดชอบ ร่วมรับผลประโยชน์ และร่วมเป็นเจ้าของ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดความหวงแหนในทรัพยากรการท่องเที่ยวร่วมกัน ”นาวาอากาศเอก อธิคุณกล่าว
นาวาอากาศเอก อธิคุณ กล่าวทิ้งท้ายว่า ว่า อพท. จะดำเนินการพัฒนาพื้นที่พิเศษฯ ตามกรอบเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญ 4 ด้านเพื่อมุ่งสู่ “การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสู่การเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศไทยให้เป็นเมืองน่าเที่ยวและน่าอยู่” ได้แก่
”ในปี 2567 จะมีการพัฒนาพื้นที่การท่องเที่ยวเดิมด้วยการอัพเกรด มากยิ่งขึ้น เพื่อให้แต่ละพื้นที่ก้าวไปสู่การได้รางวัล Top 100 เน้นการท่องเที่ยวในรูปแบบรักษ์โลกอย่างยั่งยืน ช่วยลดมลภาวะ กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่ปลดปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ในปี 2567 กำลังศึกษาศักยภาพในพื้นที่พิเศษ เกาะคอเขา จ.พังงา และพื้นที่คลองท่อม จ.กระบี่ โดยเฉพาะพื้นที่คลองท่อมมีน้ำพุร้อนเค็ม ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษและยังไม่สามารถดึงมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เตรียมที่จะผลักดันเป็นพื้นที่พิเศษโดยจะมีการทำงานกับชุมชนและทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันเตรียมศึกษาในพื้นพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา “ นาวาอากาศเอกอธิคุณกล่าว