ภายใต้การสั่งการและอำนวยการของ นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.ปทุมธานี นายพงศธร กาญจนะจิตรา รอง ผวจ.ปทุมธานี นายธรรมนูญ แจ่มใส ปลัด จ.ปทุมธานี สั่งการให้ฝ่ายปกครองตรวจสอบสถานบริการ ประเภทสถานบันเทิงที่ผิดกฎหมายและฝ่าฝืนคำสั่งไม่ปฎิบัติตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย
เมื่อเวลา 23.14 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 นายธีระศักดิ์ รัตนะ ป้องกัน จ.ปทุมธานี นายวินันท์ เจริญเวช จ่า จ.ปทุมธานี ผช.ป้องกัน จ.ปทุมธานี เจ้าพนักงานปกครอง นิติกร เจ้าหน้าที่สังกัดที่ทำการปกครอง จ.ปทุมธานี และสมาชิก อส.ร้อย.บก.บร. บก.อส.จ.ปทุมธานี บูรณาการร่วมกับตร.บก.ภ.จว.ปทุมธานี นำโดย พ.ต.อ.หฤษฎ์ คำจุมพล ผกก.กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี สำนักงาน ปปส.ภ.1 นำโดย น.ส.ปิยมาพร นามวงษ์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ฝ่ายปกครอง อ.คลองหลวง นำโดย นายรัชพงษ์ ศิริมี เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ และ ตร.สภ.คลองหลวง โดย พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ จงรักษ์ รรท.รอง.ผกก.ป. ฯ เข้าตรวจสอบร้านก้ำกึ่ง ตั้งอยู่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นร้านชมดาว และร้านSUPREME หรือร้านก้ำกึ่ง(ชื่อเก่า) ที่เคยถูกสั่งปิดไปแล้ว
โดยการตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากอำเภอคลองหลวงได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีพิจารณาสั่งปิดสถานประกอบการเนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ลว. 22 กรกฎาคม 2558 ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2561 ผวจ.ปทุมธานี ได้มีคำสั่งปิดสถานบริการและห้ามมิให้ใช้เป็นสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวอีก แต่ต่อมาทางร้านได้เปิดให้บริการอีก โดยมีการเปลี่ยนชื่อเป็น"ร้านชมดาว" และ "ร้านSUPREME" ซึ่งตั้งอยู่สถานที่เดิมและต่อมาเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2567 ถูกจับกุมดำเนินคดีอีกครั้งในข้อหา"ร่วมกันขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดสถานบริการที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้เคียงสถานศึกษา ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์"
ต่อมาวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ทางจังหวัดปทุมธานีได้รับเรื่องร้องเรียนอึกว่า ร้านดังกล่าวยังได้เปิดให้บริการอีก ซึ่งอาจมีการกระทำผิดกฎหมาย ผวจ.ปทุมธานี จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จ.ปทุมธานี ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนหาข่าวทางลับ ก็พบว่าร้านดังกล่าวยังเปิดให้บริการตามปกติและเห็นว่าร้านที่เปิดให้บริการ (ร้านก้ำกึ่ง ชมดาว และ SUPREME) คือร้านเดียวกัน โดยลูกค้าจะต้องเดินไปสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เคาน์เตอร์และให้ไปรับสินค้าที่ใต้บันไดทางขึ้นของร้าน ซึ่งอาจเป็นการหลบเลี่ยงการกระทำความผิดเนื่องจากร้านไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุราหรือเป็นการจำหน่ายแอลกอฮอล์ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา ซึ่งสถานที่ตั้งของร้านห่างจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ประมาณ 8 เมตร จึงน่าเชื่อว่าจะมีการกระทำผิดกฎหมาย
จากนั้นวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 23.14 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จ.ปทุมธานี จึงบูรณาการร่วมกับ ตร.ภ.จว.ปทุมธานี สำนักงาน ปปส.ภาค 1 ฝ่ายปกครอง อ.คลองหลวง และตร.สภ.คลองหลวง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกัน พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายจริง จึงได้ร่วมกันจับกุม นายฉัตรชัย อินกอง ผู้จัดการร้าน ในข้อหา"ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 4 ประกอบ มาตรา 3 (4) (ค) , ประกอบมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 46/2559 ข้อ 6/1 (2) กรณีจังหวัดปทุมธานีมีคำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ 5938/2561 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2561 สั่งปิดสถานประกอบการร้าน “ชมดาว” ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ข้อ 6 วรรคท้าย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.ปทุมธานี กล่าวว่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดสถานบริการที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะสถานบริการและสถานประกอบการที่ให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการ ที่ตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษา มอมเมาเยาวชน โดยชุดปฏิบติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานี บูรณาการกับสำนักงาน ปปส.ภาค 1 ตำรวจสืบสวนจังหวัดปทุมธานี อ.คลองหลวง และ สภ.คลองหลวง
ร่วมกันจับกุม "ร้านก้ำกึ๋ง"
ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แค่เพียง 8 เมตรเท่านั้นและรอบๆร้านยังรายรอบไปด้วยหอพักนักศึกษา โดนจับมาทั้งหมด 7 ครั้ง โดนสั่งปิดสถานที่ห้ามเปิดสถานบริการตลอดไป ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 เมื่อปี 2561 แต่ยังฝ่าฝืนดื้อดึงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงต้องดำเนินการเด็ดขาดสั่งปิดถาวรทันที
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / หน.ข่าวภูมิภาค