วันนี้ 27 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร. พร้อม พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร.  เดินทางโดย เฮลิคอปเตอร์ มาลงที่ สนามจอด ฮ.กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี โดยมี พล.ต.ท.นัยยะวัฒน์ เผดิมชิตต ผบช.ภ.7 และ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ตร.ภ.กาญจนบุรี พ.ต.อ. กรณ์ สมคะเนย์ ผกก.ตม.กาญจนบุรี พ.ต.ทำ.กฤษฎา จันทร์อุทัย สวญ.ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 (กาญจนบุรี) และ ตร.หน.สถานีตำรวจในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ร่วนต้อนรับและประชุมที่ศปก.ภ.จว.กาญจนบุรี

      โดยพล.ต.ท.นัยยะวัฒน์ และ พล.ต.ต.นครินทร์ รายงานบรรยายสรุปข้อมูลเกี่ยวกับ สถานการณ์และแผนปฏิบัติการปราบปรามสิ่งของผิดกฎหมายในพื้นที่กาญจนบุรี และผลการปฏิบัติการเกี่ยวกับป้องกันปราบปรามยาเสพติดกับสินค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดน รวมถึงการบูรณาการแก้ปัญหาการลักลอบขนยางพาราเถื่อนข้ามแดนและการนำผ่านยางพาราผ่านแดนช่องทางบ้านพระเจดีย์สามองค์

      หลังจากนั้น เวลา 15.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปที่ห้องประชุม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมประชุม กับ ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผวจ.กาญจนบุรี พ.อ.อัษฎาวุธ ปันยารชุน รอง ผบ.พล.ร.9 รอง ผบ.กกล.สุรสีห์ ผู้แทนหน่วยฉก.ลาดหญ้า และ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับข้อสั่งการของนายเศษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่สั่งการให้จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการในหลายเรื่อง

      โดย ร้อยโททศพล ได้กล่าวในที่ประชุมว่า  สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องปัญหายางพาราทรานสิตและการลักลอบนำเข้ายาพาราจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยยางพาราทราตสิตเป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศ เป็นหน้าที่ของกรมศุลกากรพิจารณาดำเนินการ ส่วนทางจังหวัดกาญจนบุรีได้เข้าไปดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ปัญหาผลกระทบเกี่ยวกับการขนส่งและผลกระทบชุมชนและการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดและได้มีการประสานต่อกรมศุลกากรเพื่อขอให้ทบทวน และย้ายการผ่านแดนไปเปิดบริการผ่านแดนที่ช่องทางจุดผ่านแดนบ้านพุน้ำร้อนที่มีความพร้อมรองรับในทุกด้าน

      ส่วนสถานการณ์ไฟป่า ได้ร่วมกับกรมอุทยานและท้องถิ่นชุมชนในทุกพื้นที่ทำการประชาสัมพันธ์และร่วมกันดับไฟป่าทุกพื้นที่รวมถึงทาง ปภ.ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์2 ลำมาช่วยตักน้ำร่งมดับไฟในเขตป่า จนทำให้จุดความร้อนลดน้อยลงไปมาก

       ส่วนเรื่องสังคมคือหนี้นอกระบบก็ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยอย่างครบถ้วนแล้ว

       ด้านความมั่นคงชายแดนการปราบปรามสินค้าเถื่อนและการกระทำผิดกฎหมายได้ร่วมบูรณาการกันระหว่าง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง โดยเพิ่มกำลังและความเข้มงวดในทุกด่านความมั่นคง ตั้งแต่ ด่านน้ำ เกริ๊ก ด่านรันตี ด่านทองผาภูมิและด่านไทรโยค ได้เพิ่มมาตรการตรวจค้นอย่างเข้มงวด

       ส่วนทางด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยว่า นายก เรียกไปสั่งการ  ให้มา การบริหารจัดการของผิดกฎหมายในพื้นที่กาญจนบุรี  ฟังจากผู้ว่าและผบช.ภ.7 ได้ดำเนินไปแล้ว  โดยเน้นเรื่องของเถื่อนชายแดน หนี้นอกระบบ  

      โดยเรื่องยาเสพติดที่มีการจับกุมได้ 50 ล้านเม็ด สืบเนื่องจากการบน๊อคพื้นที่จากทางภาคเหนือ จึงทำให้ยาเสพติดถูกดันของมาที่กาญจนบุรี โดยบล๊อคจากภาคเหนือไหลมากาญจนบุรีและตอนนี้มีข่าวว่าเริ่มลงไปถึงระนอง ซึ่งเราจะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจโดยจสกัดตามด่านต่างๆ มากขึ้นโดยเน้นเส้นทางสำคัญที่ทองผาภูมิที่สำคัญที่สุด

       ส่วนเรื่องยางพาราทรานสิต เป็นเรื่องของกาคผ่านแดนระหว่างประเทศ เขานำผ่านแดนประเทศเรา วิ่งบนถนนเรา เราเก็บภาษีผ่านแดนแค่ 500 ถนนเสียหายจำนวนมาก เราก็คงต้องเข้มงวดในส่วนของกาควบคุมให้เขาทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งเรื่องน้ำหนักบรรทุกทั้งเรื่องการขับขี่ตามกฎจราจร คงต้องกวดขัน ทราบว่ากำลังให้ย้ายมาเข้าที่ ด่านพุน้ำร้อนก็จะสะดวกในการควบคุมดูแลมากขึ้น

       เรื่องของเถื่อนของผิดกฎหมายต่างก็ให้มีการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจจับ เรื่องไฟป่าตำรวจจะเจ้าไปช่วยประขาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนในชุมชนร่วมกันช่วยกันดูแลป้องกันและร่วมกันดับไฟป่าในช่มชนใกล้เคียงเพื่อลดปัญหา และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับระวางโทษเกี่ยวกับการกระทำผิดเผาป่าว่ามีถ้าใครกระทำความผิดเผาป่าจะได้รับโทษหนักและจะถูกดำเนินคดีอย่างจริงจังต่อไป

      หลังการประชุม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์พร้อม ร้อยโททศพล ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปดูพื้นที่ด่านความมั่นคงบนถนน323บริเวณ สามแยกทองผาภูมิ และเดินทางไปดูสภาพพื้นที่ชายแดนสังขละบุรีบริเวณด่านตรวจความมั่นคงรันตี ด่านความมั่นคงน้ำเกริ๊ก  บริเวณช่องทางธรรมชาติและจุดผ่อนปรนด่านเจดีย์ สามองค์ อ.สังขละบุรี
                                /////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน