อ.เมือง จ.ตราด ที่ศาลาการเปรียญวัดมณีกาญจนาราม (วัดนาเกลือ) ต.ชำราก อ.เมืองตราด นายนิวัฒน์ หนูจักร กำนันตำบลชำราก พร้อมด้วย นายขรรค์ชัย ไชยคง หัวหน้าฝ่ายจัดหาน้ำ โครงการชลประทานตราดนายเตธรรศ รัตนไชย ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอเมืองตราด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมเปิดประชุมกลุ่มผู้ใช้น้ำตำบลชำราก ภายหลังมีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวกำนันตำบลชำรากต่อท่อน้ำดิบเข้าพื้นที่ให้พรรคพวกเพื่อนฝูงและตนเอง เป็นการกระทำมิชอบด้วยกฎหมาย โดยมีเกษตรกรผู้ใช้น้ำตำบลชำรากจำนวนร่วม 100 ราย เดินทางมาร่วมประชุม
โดยการประชุมวันนี้นายนิวัฒน์ หนูจักร กำนันตำบลชำราก กล่าวในที่ประชุมว่า ข่าวดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียให้กับตนเอง ตำบลชำราก และโครงการชลประทานตราด ในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำโดยตำหนินักข่าวที่นำเสนอข่าวดังกล่าว รวมทั้งชาวบ้านที่ให้ข่าวกับนักข่าวด้วย โดยนายนิวัฒน์กล่าวว่าตนเองได้รับหนังสือร้องทุกข์จากเกษตรกรชาวสวนทุเรียนจำนวน 12 ราย ที่ทำสวนทุเรียนรวม 12 แปลง พื้นที่กว่า 200 ไร่ กำลังประสบปัญหาน้ำที่ใช้ในการรดสวนทุเรียนเป็นน้ำเค็ม ทำให้เกิดความเสียหายกับทุเรียน โดยทุเรียนใบไหม้ ใบร่วง ผลทุเรียนที่กำลังติดผลก็พลอยร่วงหล่นทำให้เกิดปัญหาอย่างหนัก จึงได้ประสานกับโครงการชลประทานตราด ในการหาแหล่งน้ำเพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกรชาวสวนทั้งหมด โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วเป็นความจริง พบว่าทุเรียนได้รับผลกระทบมาก อีกทั้งน้ำในบ่อและสระน้ำของเกษตรกรทุกแห่งล้วนเป็นน้ำเค็ม จึงนำรถน้ำ และหาแนวทางต่อท่อน้ำเข้าไปให้ความช่วยเหลือเป็นการชั่วคราว แต่เรื่องดังกล่าว มีเกษตรกรชาวสวนบางรายเกรงว่าน้ำที่ใช้จากสระน้ำขนาดใหญ่คือสระน้ำ รพช.หนองบัว จะไม่พอใช้ จึงแจ้งนักข่าวมาทำข่าว จนเกิดความเข้าใจผิดกันขึ้น วันนี้นายนิวัฒน์ หนูจักร กำนันตำบลชำราก พร้อมฝ่ายปกครอง และโครงการชลประทานตราด จึงเปิดประชุมทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านไปพร้อมกันด้วย
นายนิวัฒน์ กำนันตำบลชำราก และเกษตรกรชาวสวนทุเรียนตำบลชำราก บอกว่าสระน้ำหนองบัว มีน้ำเต็มอ่างจากการส่งน้ำมาช่วยของโครงการชลประทานตราด จนน้ำไหลลงคลองไปทั่วพื้นที่การเกษตร ยกเว้นพื้นที่ของเกษตรกรอีก12 แปลง ที่ประสบปัญหาน้ำเค็มใช้ไม่ได้ เพราะเป็นพื้นที่อยู่ติดคลองน้ำเค็ม วัดค่าความเค็มได้ถึง 96 % จึงประสานงานโครงการชลประทานตราดให้ต่อท่อน้ำมาช่วยเป็นการชั่วคราว ซึ่งจะต้องสูบน้ำออกจากสระน้ำเดิม ที่นางสำเนา พ่วงกระแสร์ เจ้าของสวนทุเรียนที่ได้รับความเดือดร้อนยกให้เป็นสระน้ำสาธารณะ และสามารถใช้น้ำที่โครงการชลประทานตราดนำมาใส่ให้ใหม่ได้ทุกคน โดยตอนนี้ทุเรียนกำลังวิกฤต หากไม่ช่วยเหลือ จะทำให้ผลิตทุเรียนได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาทอย่างแน่นอน นายนิวัฒน์ บอกว่าหากชาวบ้านพูดคุยแก้ปัญหากันเองก็จะไม่เกิดปัญหานี้ ตนเองต้องตำหนินักข่าวที่ไม่ฟังความให้รอบด้านก่อนนำเสนอข้อมูลข่าวสารจนทำให้เกิดความเสียหายกับตำบลชำราก และโครงการชลประทานตราดดังกล่าว
ข่าวภูมิภาค จ.ตราด ภาพ/ข่าว ณัฐวุฒิ สวัสดิ์วารี โทร.089-8895631