บิ๊กทิน บอกไม่ได้หนีการอภิปรายของฝ่ายค้านสามารถชี้แจงได้ทุกข้อสงสัยบิ๊กทิน บอกไม่ได้หนีการอภิปรายของฝ่ายค้านสามารถชี้แจงได้ทุกข้อสงสัย ลงพื้นที่ รมช.คลัง มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ โครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” ประจำปีงบประมาณ 2567 ตามนโยบายรัฐบาล เผยทั้งประเทศมีที่ทับซ้อนค่อนประเทศ ระดับ รัฐมนตรียังทะเลาะกับข้าราชการ ต่อไปแผนที่ต้องมีฉบับเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานเอนกประสงค์เทศบาลตำบลไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ โครงการ "ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ " ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ตามนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในสังคมเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน โดยดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ โดยการรับรองสิทธิด้วยการจัดให้เช่าที่ราชพัสดุภายใต้โครงการ "ธนารักษ์เอื้อราษฎร์"
โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.อ.ธีระยุทธ จินหิรัญ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พลตรี พฤทธิ์ จันทราสา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายรณภาพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 รวมทั้งผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรที่ได้รับสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ 153 ราย เข้าร่วม
สำหรับมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุให้กับประชาชน มี จำนวน 153 ราย เป็นที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กจ.209 บริเวณบ้านแก่งประลอม พื้นที่ 2,223 ไร่ 1 งาน 72 ตารางวา และบ้านพุดล่าพื้นที่ 52 ไร่ 43 ตารางวาในตำบลท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี รวมเนื้อที่ทั้งหมด 2,375 ไร่ 2 งาน 15 ตารางว่า ซึ่งจะส่งผลดีต่อความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยที่ทำกินและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ดีขึ้นภายใต้นโยบายของรัฐบาล
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้ผมมาในนามตัวแทนประทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็คือนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ส่งความห่วงใยมาถึงประชาชน นโยบายของเราในวันนี้คือมอบสิทธิในการเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐให้กับพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นดำริของท่านนายกรัฐมนตรีร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและริเริ่มโดยกองทัพคือท่านพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ซึ่งเป็นความคิดในการที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องความขัดแย้งในการเข้าใช้พื้นที่ของประชาชนในพื้นที่ของรัฐ โดยที่รัฐไม่ได้ใช้ประโยชน์ในหลายส่วนแล้ว ทางกองทัพก็พร้อมและยินดีที่จะคืนพื้นที่เหล่านั้นมาให้กับกรมธนารักษ์ เพื่อที่จะส่งมอบต่อให้กับพวกเราทุกคน
คืนไม่ได้คืนให้เปล่าๆ เพราะว่าโครงการในการมอบสิทธิ์ในการเข้าใช้พื้นที่ในครั้งนี้ทางกองทัพบอกว่าจะแถมสิทธิประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนด้วย พวกเราไปลงชื่อกันแล้วใช่ไหมว่าจะเอาไปใช้ประโยชน์อย่างไร ทำการเกษตรหรือเป็นที่อยู่อาศัยและต้องการอะไรในพื้นที่เขาก็ให้เราเลือกว่าต้องการแหล่งน้ำต้องการขุดบ่อต้องการเจาะบาดาลหรือต้องการขึ้นแปลงทำถนนสิ่งต่างๆเหล่านี้ทางกองทัพมีความพร้อมผมต้องขอขอบคุณแทนพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะทหารหน่วยพัฒนา ที่มีความพร้อมในการลงไปปรับพื้นที่หรือเตรียมรอให้เราเข้าสู่พื้นที่ได้แล้วทำให้สามารถประกอบอาชีพเดินหน้าต่อชีวิตได้ทันที
ผมเรียนเลยว่าผมเป็น ส.ส.มา 20 ปีเห็นการต่อสู้ระหว่างรัฐกับประชาชนมาทุกรูปแบบ เรื่องของพื้นที่ราชพัสดุประชาชนไม่เคยสู้ชนะภาครัฐเพราะรัฐก็ปล่อยไม่ได้ ซึ่งกองทัพเองไม่มีความประสงค์ที่จะมีความขัดแย้งกับราษฎร ไม่มีความประสงค์ที่จะขัดแย้งกับคนในพื้นที่ แต่ด้วยกฎหมายด้วยกฎระเบียบจึงไม่สามารถที่จะส่งให้กับพวกท่านได้โดยตรง
เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงสร้างโครงการขึ้นมาว่า เราต้องใช้วิธีด้วยการให้กองทัพคืนพื้นที่มาให้ธนารักษ์และให้ธนารักษ์มาทำสัญญากับราษฎร เพราะฉะนั้นนี่คือแนวทางออกในการแก้ไขปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในที่ดิน นี่คือแนวทางในการที่จะมอบสิทธิ์ให้กับพวกเราที่จะสามารถอยู่อาศัยทำมาหากินได้ 1ซึ่งสิทธิ์ในวันนี้เราทำสัญญากัน 30 ปี ใน 30 ปีนี้ท่านสามารถทำประโยชน์ในพื้นที่ได้ หากท่านเสียชีวิตสามารถส่งมอบต่อให้กับทายาทหรือเมื่อถึงเวลาจะส่งมอบให้กับลูกลานก็สามารถทำโดยชอบธรรมได้ ทั้งหมดนี้เป็นช่องทางที่กฎหมายเปิดช่องให้กับพวกเรา เพราะฉะนั้นมันก็เท่ากับเป็นสิทธิ์ในการที่จะเข้าใช้ที่ดินเหล่านี้
โดยกรมธนารักษ์วันนี้เราปรับในเรื่องของกลไกต่างๆโดยเฉพาะในเรื่องของราคาไม่มีถูกกว่านี้อีกแล้ว ราคาที่กำหนดมาอย่างเช่นเรื่องของทำพื้นที่การเกษตรเช่าเพียง 20 บาทต่อไร่ต่อปี ถ้าเป็นที่อยู่อาศัยเช่า 25 สตางค์ต่อตารางวาต่อปี ไม่มีถูกกว่านี้อีกแล้ว หากจะทำให้ราคาเช่าต่ำกว่านี้ก็ลำบากมาก
สำหรับพี่น้องประชาชนให้เขารู้กันว่า วันนี้เรามาทำอะไรให้และถ้าท่านสามารถที่จะบอกกับเพื่อนๆที่อยู่ในหมู่บ้านและยังไม่เข้าสู่โครงการเชิญชวนเขาว่าวันนี้กรมธนารักษ์และกองทัพไทยพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือพร้อมที่จะทำงานให้กับพวกเราพร้อมที่จะมาส่งมอบสิทธิ์ในการเข้าสู่ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนแล้ว
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้กล่าวถึงเจตนารมในการส่งมอบที่ดินกองทัพให้กับประชาชนในวันนี้ว่า ก่อนอื่นขอกราบเรียนว่าวันนี้ผมมีความสุข ในฐานะเป็นนักการเมือง และในสถานะเป็นนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล สุขยังไงสุขก็คือได้ทำประโยชน์ให้กับพี่น้องในสิ่งที่สำคัญมาก สำคัญมากคืออย่างไร ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลซึ่งวันนี้ท่านนายกฝากมา รัฐบาลชุดนี้เข้ามาก็เพื่อตั้งใจอยากแก้ปัญหาปากท้อง ให้พี่น้องได้อยู่ดีกินดี มีความมั่นคงในชีวิต ถามว่ารัฐบาลจะทำอะไรบ้างนั้น ก็บอกเลยว่ามีหลายนโยบาย แต่หนึ่งนโยบายก็คือ พี่น้องต้องมีที่ทำกิน แล้วที่ทำกินนั้นจะต้องมีความมั่นคงแล้วที่ทำกินจะต้องเป็นที่ทำกินที่มีคุณภาพ
เราหาที่ทำกินเพื่อจะนำมามอบให้พี่น้องประชาชน หาเท่าไหร่ก็หายาก แต่ก็มาพบว่าที่ของทหารหรือกองทัพ ที่ยังพอมีอยู่บ้าง ก็หมายความว่าที่กองทัพเขาก็มีไว้ใช้ประโยชน์ในการตั้งหน่วยบ้างเอาไว้ฝึกบ้าง เมื่อที่เหลือจากการฝึกเราก็มาดูกันว่าตรงไหนพอที่จะแบ่งให้กับพี่น้องนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง
จึงเกิดนโยบายว่าจะเอาที่ทหารที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือที่ที่ยังไม่ได้ใช้มาให้พี่น้องได้ทำกินด้วยการเช่าจากกรมธนารักษ์โดยถูกต้องตามกฎหมาย ถามว่าทำไมต้องให้เช่า พี่น้องจะต้องเข้าในก่อนว่าที่ดินมันมีกฎหมายอยู่ สมมุติว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอยากจะมอบให้แล้วส่งมอบให้กันไปเลย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็จะต้องติดคุก ดังนั้นจะต้องทำตามกฎหมาย
เรื่องที่ดินต้องไปดูแผนที่ เพราะประเทศไทยของเรามีปัญหาเยอะมาในเรื่องที่ดินและมีปัญหาในทุกจังหวัดไม่ใช่เฉพาะจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น มีทั้งเคสราษฎรบุกที่ดินของหลวง หลวงบุกที่ดินของราษฎร สุดท้ายไม่รู้ว่าใครบุกรุกใครซึ่งขณะนี้กำลังยุ่งกันอยู่หลายที่ ทุกวันนี้ก็ยังมีปัญหาอยู่ แม้แต่รัฐมนตรีเองก็ยังทะเลาะอยู่กับข้าราชการกรณีเกิดปัญหาที่ดินที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
พี่น้องชาวกาญจนบุรี ก็เช่นกันเท่าที่ได้ดูพบว่าที่ดินมีปัญหามากที่สุด เพราะมีทั้งที่ทหาร ที่กรมป่าไม้ ที่กรมอุทยานฯเป็นต้น ทำให้มีพื้นที่ทับซ้อนกันและแก้ปัญหาดังกล่าได้ยากมากจนเป็นตำนาน ทำไมที่ดินของจังหวัดกาญจนบุรีจึงแก้ปัญหายาก ก็เพราะเมื่อในอดีตพวกเราสำรวจที่ดินกันง่ายๆ เพราะเจ้าหน้าที่ป่าไม้และ เจ้าหน้าที่ที่ดินรุ่นเก่า ไม่มีเครื่องมือในการนำไปตรวจสอบที่ดินว่า พื้นที่บริเวณไหนเป็นของกรมป่าไม้ เป็นของกรมธนารักษ์ แปลงไหนเป็นของกรมที่ดินและบริเวณไหนเป็นของชาวบ้าน เพราะไม่มีใครไปเดินรังวัดไม่มีใครไปเดินส่องกล้องวัด เพราะสมัยก่อนได้แต่นั่งคิดเอา นั่งปักเอาคิดเอาเองว่าตรงนี้คือที่ของใคร
ปัญหาที่เกิดในภายหลังก็คือที่ดินเกิดทับซ้อนจนมั่วกันไปหมดเพราะแต่ละหน่วยงานถือแผนที่กันคนละฉบับ ซึ่งที่ดินทั้งประเทศของจริงเลยคือมีอยู่จำนวน 350 ล้านไร่ แต่เมื่อไปตรวจสอบดูเอกสารของทั้งกรมที่ดิน กรมธนารักษ์ รวมทั้งเอกสารที่พี่น้องถืออยู่ ปรากฏว่ามีรวมกันมากกว่า 500 ล้านไร่ นั่นแสดงว่ามีการออกเอกสารทับซ้อนมากมากถึงครึ่งต่อครึ่งมันจึงเกิดปัญหาตามมา และจะไปโทษใครก็ไม่ได้ จึงเกิดข้อพิพาทกันขึ้นระหว่างชาวบ้านกับหน่วยงานรัฐ และมีการฟ้องร้องกันตามมา
บางคดีมีการฟ้องร้อนกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารกับชาวบ้าน ถามว่าแล้วทหารมายุ่งอะไรตรงไหนโดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรีมีพื้นที่ทหารมากที่สุด เพราะในอดีตนั้นจังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่สงคราม เป็นพื้นที่ความมั่นคง เมื่อสงคราโลกครั้งที่ 2 จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่ที่ดุเดือดมาก ขณะนั้นทหารจึงเข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการสู้รบ เมื่อสงครามครั้งที่ 2 จบลงแล้วพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรียังเป็นพื้นที่ที่ยังคาราคาซังอยู่ ทหารก็ยังคงอยู่เพื่อดูแลพื้นที่ ซึ่งก็เป็นสามารถทำให้พื้นที่ทับซ้อนกันเยอะ
แต่มาในวันนี้เรามีวิธีแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนแล้ว โดยรัฐบาลมีนโยบายทำให้มีแผนที่เพียงฉบับเดียว ที่หน่วยงานรัฐต่างๆเคยถือแผนที่คนละฉบับนั้นต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว โดยจะให้มีเพียงแค่ฉบับเดียวที่เรียกกันว่า วันแมป(One Map) เพราะถ้าวันนี้มีแผนที่เพียงฉบับเดียวก็คงจะไม่เกิดการทะเลาะกันอีกต่อไปแล้ว
พอรัฐบาลมีนโยบายจะให้พี่น้องได้ใช้ที่ดิน เราก็คุยกับทหาร คุยกับกองทัพว่าคืนที่ให้กับกรมธนารักษ์หรือไม่ ซึ่งกองทัพไม่มีปัญหา ทั้งทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ รวมทั้งกองทัพไทย ต้องเอาแผนที่มาดูว่าตรงไหนคืนได้ก็ให้คืนเลย คืนให้พี่น้องประชาชน แต่การคืนพื้นที่ของกองทัพทหาร จะเอามาให้พี่น้องประชาชนเลยนั้นทำไม่ได้ เพราะเจ้าของตัวจริงคือกรมกรมต่างๆซึ่งเป็นคนดูแล แต่ที่นี่เจ้าของตัวจริงคือกรมธนารักษ์ ส่วนที่หนองบัวลำภูเจ้าของตัวจริงคือกรมอุทยานฯ และกรมที่ดิน ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ดินว่าเป็นของใครก็คืนให้คนนั้น แต่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ทหารจะต้องคืนที่ดินให้กับกรมธนารักษ์ก่อน จากนั้นก็ให้พี่น้องประชาชนมาติดต่อขอเช่าให้ถูกต้องกับกรมธนารักษ์ ต่อไป
และนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวทิ้งท้ายว่า จากที่ทางฝ่ายค้าน บอกว่าตนเองหนีการอภิปรายในสภา ตนเองยืนยันว่าไม่ได้หนี เรื่องการลงพื้นที่ได้แจ้งไว้ก่อนล่วงหน้านานแล้ว...............นายสุทิน คลังแสง กล่าวทิ้งท้าย เรื่องการมอบที่ดิน และเรื่องปัญหายาเสพติด......................
////////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน