จังหวัดสกลนคร จัดเสวนาตามโครงการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ เน้นพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต ชูการเป็นเมืองแอ่งธรรมะและอารยธรรม เหมาะแก่การศึกษาดูงาน
เวลา 09.30 น.วันที่ 12 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุมหนองหารหวง โรงแรมอิมพีเรียล เขตเทศบาลนครสกลนคร นายวีระ ฤกษ์วณิชยกุล รอง ผวจ.สกลนคร เป็นประธานเปิดและร่วมเสวนา ตามโครงการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการของจังหวัดสกลนคร โดยผู้เข้าร่วมเสวนาประกอบด้วย ดร.ชูพงศ์ คำจวง นายก อบจ.สกลนคร นายนิวัตร อภัยจิตต์ รอง นายก ทน.สกลนคร น.ส.เสาวนีย์ คนกล้า ผอ.ททท. สำนักงานนครพนม น.ส.ปภินพิทย์ พัวโสพิศ ผอ.สวท.สกลนคร น.ส.นวลภัค สุหญ้านาง นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสกลนคร ดำเนินการเสวนาโดย นายกฤติเดช ทองเพิ่ม ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้เข้าร่วมรับฟังทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน กว่า 250 คน ซึ่งมีการนำของดีเมืองสกลมาแสดงและจำหน่ายด้วย โดยบรรยากาศการเสวนามีการลุกขึ้นเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างหลากหลายซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวในอนาคต
โดยนายวีระ ฤกษ์วณิชยกุล รอง ผวจ สกลนคร กล่าวว่า เราได้เชิญภาคีเครือข่ายการท่องเที่ยวมาพบปะพูดคุยกัน 4 ครั้ง เนื่องจากเรามีอะไรดีๆเยอะแยะมากมาย แต่ทำไมการท่องเที่ยวเราถึงไม่เป็นควรที่จะเป็น โดยจังหวัดข้างเคียงเขามีการพัฒนาและไปไกลในเรื่องการท่องเที่ยว ดังนั้นวันนี้ จึงมาพูดคุยกันเพื่อการขับเคลื่อน โดยการปูพื้นฐานให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง จากนั้นจะไปลงพื้นที่ ทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวของสกลนคร ว่าไปดูแล้วเจออะไรมีปัญหาอะไรหรือไม่ นำมาถอดบทเรียนทั้งหมดเพื่อแก้ไขให้การท่องเที่ยวของสกลนคร เกิดการพัฒนาส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไปสู่ในจุดที่ต้องการ จะนำมาซึ่งรายได้เศรษฐกิจในชุมชนสร้างอาชีพ ยกตัวอย่างในวันนี้ สกลนคร มีของดีติดอันดับของโลก เช่น หลวงปู่มั่น ยูเนสโกได้ประกาศเป็นบุคคลสำคัญของโลก โคขุนโพนยางคำ เนื้อของเราเกรด 3.5 เทียบเท่ากับวากิว A4 และเรื่องผ้าครามประยุกต์ อาหารพื้นถิ่นไปชนะเลิศระดับโลกที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย และยังมีสินค้า GI ไม่ว่าจะเป็นผ้าคราม ข้าวฮาง ผลิตภัณฑ์จากเม่า เรื่องเหล่านี้จะทำยังไงให้เกิดการเชื่อมโยงเพื่อเป็นจุดขายดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดสกลนครให้มากขึ้น เช่น พัฒนาอาหารปลอดภัยรายได้สูง การพัฒนาการค้าการลงทุน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
ด้าน ดร.ชูพงศ์ คำจวง นายก อบจ.สกลนคร และนายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตอนนี้การท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนคร หากเทียบกับ จ.นครพนม และ จ.มุกดาหารนั้นเราอาจจะสู้ไม่ได้ แต่ถ้าหากเราลองมาปรับเปลี่ยนการท่องเที่ยวใหม่ ชูการเมืองแอ่งธรรมะและอารยธรรม เรามีถ้ำผาแด่น หนองหาร วัดพระธาตุดชิงชุมวรวิหาร และอื่นๆอีกมาก เราจะต้องสร้างคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาโดยจัดกลุ่มเช่นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมะ หรือวัฒนธรรม เราจะต้องใช้ให้เกิดการเชื่อมโยงหรือสื่อไปสู่จังหวัดต่างๆ งบประมาณก็เป็นส่วนสำคัญ อบจ.พร้อมืที่จะสนับสนุน โดยเฉพาะก้านการตลาด เราจะต้องรู้ว่าจะดึงลูกค้าแบบไหน แบบวัยรุ่น กลางคน หรือผู้สูงอายุ เราทำอย่างไรที่จะคอนโทรลนักท่องเที่ยวได้ไม่ให้กระจัดกระจาย ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ เราควรจะให้นักท่องเที่ยวมาเป็นกลุ่มก้อน และเราจัดหาที่พักและร้านอาหารให้อันนี้จะเกิดประโยชน์ อบจ.สกลนครได้จัดทำแผ่นพับมีคิวอาร์โค้ดแนะนำแหล่งท่องเที่ยว 8,000 ชุดแจกจ่ายไปทั่วประเทศ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินมาสู่ จ.สกลนคร โดยเฉพาะทัวร์ธรรมะ เราจะต้องรู้ว่าธรรมะแต่เปลือกก็คือเดินทางมากราบไหว้เฉยๆ แก่นธรรมะก็คือเข้ามาปฏิบัติธรรม เราจะมีทีมซึ่งก็คือสำนักงานพระพุทธศาสนา จัดเจ้าหน้าที่โทรเขิญให้มาเที่ยว ขณะนี้ทราบว่ามีงบประมาณอยู่กว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อให้หน่วยงานได้ขอเดินทางมาทัศนศึกษา สกลนครเป็นเมืองแห่งการศึกษาดูงาน มีศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ของ พ่อหลวงซึ่งได้เดินทางมาเยี่ยมพระสกนิกรถึง 109 ครั้ง มีพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีพระเกจิอาจารย์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งกำลังจะมีการรูปปั้นองค์ใหญ่ที่สุดกลางหนองหาร
///////////////// วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 0819541528