นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงานประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้ว ประจำปี ๒๕๖๗ ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี มีนางจิตตินันท์ เชาวรินทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี พี่น้องพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอพระพุทธบาทและพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมพิธี
ประวัติของประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้วตามพงศาวตารกล่าวไว้ว่า พระเขี้ยวแก้วคือฟันของพระพุทธเจ้าที่เหลือไว้ให้เป็นปูชนียวัตถุ มี ๔ องค์ด้วยกันคือ ๑. ประดิษฐานอยู่ที่จุฬามณีเจดีย์ดาวดึงส์เทวโลก ๒.ประดิษฐานอยู่ ณ. เมืองกาลีงคราษฎร์ ประเทศอินเดีย ๓. ประดิษฐานอยู่ที่ใต้บาดาลอันมีนามว่า นาคพิภพ ๔. ประดิษฐานอยู่ประเทศลังกา หรือลังกาทวีป ปัจจุบันได้อัญเชิญมาอยู่ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี ตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรมครองกรุงศรีอยุธยา โดยอยู่ในวิหารคลังบน ในเจดีย์จุฬามณี
กาลเวลาล่วงเลยมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๕๗ ที่เมืองพระพุทธบาทได้เกิดโรคระบาดประชาราษฎรได้เกิดการเจ็บปวยล้มตายไปเป็นอันมาก พร้อมทั้งเกิดทุพภิกขภัย อดอยาก ฝนแล้ง แห้งน้ำ ได้รับความเดือดร้อนเป็นที่ยิ่ง ผู้ปกครองในสมัยนั้นจึงอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากวิหารคลังบนออกแห่ แล้วเชิญประชาชนร่วมขบวนและถวายน้ำสรงพระเขี้ยวแก้ว ในวันนั้นเองได้มีฝนตกกระหน่ำมาอย่างหนักทำให้ประชาราษฎร์และพฤกษชาตินานาพันธุ์ได้รับความชุ่มเย็นอันเกิดจากฝนนั่นเอง จึงได้ปฏิบัติเป็นประเพณีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เอง ประชาชนชาวพระพุทธบาทจึงได้สืบทอดประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้วเป็นประจำทุกวันขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๔ ของทุกปี เพื่อความร่มเย็นและสงบสุขของชาวพระพุทธบาท
สมพงษ์ ปานรุ่ง รายงาน สระบุรี