หลัง รฟท. ดึงเอกชน ขนส่งสินค้าทางราง ยกระดับบริการ ก้าวสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ งบประมาณ เกือบ 50 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม , นายสมยุทธ์ เรือนงาม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์โปรดักส์จำกัด , นายสมพงษ์ มุ่งเจริญวงศ์ ประธานบริษัทธนบุรีโพลีแบ็คจำกัดผู้บริหาร โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาพเอกชนพญาตองซู ประเทศเมียนมา พร้อมด้วยสื่อมวลชนจากหลายสำนักได้ร่วมลงพื้นที่ บริเวณป้ายหยุดรถ สถานีรถไฟวังเย็น อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี และได้ปักหมุดวัดพื้นที่เรียบร้อย เตรียมการก่อสร้างจุดถ่ายสินค้าทางรางในปลายปี 2567 นี้ เบื้องต้นคาดเสร็จใช้งานได้ภายในเวลา 3 ปี แบ่งเป็นจุดตรวจสินค้าของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร และสาธารณูปโภคอื่นๆ หากเปิดใช้งานเต็มรูปแบบสินค้าจำพวก พืชผักผลไม้ อาหารทะเล จะขนส่งไปยังจุดต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงไปทุกภูมิภาคต่างๆ ซึ่งรัฐบาลได้เร่งดำเนินการขนส่งทางรางทั้งประหยัดลดต้นทุน และรวดเร็วกว่า โดยเฉพาะ ทวาย - แหลงฉบัง – อรัญประเทศ ทางกระทวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้เร่งสำรวจ เส้นทางจากท่าเรือแหลงฉบัง – ท่าเรือน้ำลึกทวาย เพื่อเป็นการกระจายสินค้าไปสู่ช่องแคบมะละกา เปิดช่องทางการค้าให้กว้างไกลยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันของภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
ดังนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทำการออกแบบผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ควบคู่ไปกับการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องผลสรุปออกมา 5 แนวเส้นทางผลออกมาว่าแนวเส้นทางที่ 4 เหมาะสมมากที่สุด เป็นการผ่านเส้นทางที่มีภาคอุตสาหกรรมมากที่สุด ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 8 จังหวัด ประกอบด้วย เส้นทางจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และจังหวัดชลบุรี ซึ่งเส้นทางทั้งหมดจะไม่ตัดผ่านใจกลางเมือง อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟสายใต้ในปัจจุบัน บริเวณจุดเส้นทางหนองปลาดุก รวมถึงช่วงวงเวียนใหญ่มหาชัยได้อีกด้วย
โดยเส้นทางรถไฟสายใหม่จะเริ่มที่จังหวัดกาญจนบุรี บริเวณชายแดนบ้านพุน้ำร้อน - สถานีปากกิเลน จะก่อสร้างเส้นทางใหม่เป็นเส้นทางคู่ และสร้างคู่ขนานทางรถไฟเดิมจากสถานีปากกิเลน - บ้านวังเย็น และเลี่ยงไปทางทิศตะวันออกเลี่ยงตัวจังหวัดกาญจนบุรี ไปยังสถานีท่าเรือน้อย และสร้างทางคู่ขนานเขตทางรถไฟเดิมไปยังสถานีหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี แล้วสร้างทางรถไฟสายใหม่ข้ามแม่น้ำเจ้าพะยา ไปยังจังหวัดชลบุรี และเส้นทางทั้งหมดจะไปเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟเดิมทุกจุด เมื่อเปิดใช้งานทางรถไฟสายนี้จะเป็นจุดสำคัญปริมาณสินค้าไม่ต่ำกว่า 5.09 ล้านตู้คอนเทนเนอร์ ต่อปีในปี 2594 มาตรการด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประชาชน ในช่วงขณะการก่อสร้าง รวมถึงหลังการเปิดให้บริการ และด้านอื่นๆ จะให้กระทบน้อยที่สุด
เนื่องจากที่ผ่านมาขอใช้สถานที่สถานีท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานีที่ถ่าย สินค้าตู้คอนเทนเนอร์ทางราง แต่เนื่องจากต่อมาภายหลังได้มีการออกสำรวจพื้นที่จริงหลายๆ สถานี ปรากฏว่าสถานีรถไฟบ้านเก่า มีความเหมาะสมสูงสุด ที่จะจัดตั้งเป็นสถานีถ่ายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ ระบบขนส่งทางราง ได้เป็นอย่างดีที่สุด
นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การขนส่งสินค้า ทางราง นับเป็นระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ มีต้นทุนต่ำ ประหยัดพลังงาน และมีความคุ้มค่า ผู้ประกอบการสามารถใช้บริการขนส่งสินค้าทางรางเพื่อขนส่งสินค้าได้คราวละมากๆ การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้วางนโยบายที่จะดึงภาคเอกชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการ ช่วยสร้างรายได้ และผลักดันให้โลจิสติกส์ไทย ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน เพื่อยกระดับการแข่งขันของประเทศ
ที่ผ่านมาการรถไฟแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนกลุ่มบริษัทพันธมิตรทางการค้าทดลองเปิดเดินขบวนรถขนสินค้าทางรถไฟ ไปยังศูนย์กระจายสินค้า ผ่านเส้นทางรถไฟในหลายเส้นทาง และขณะนี้ยังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ สินค้าเกลือ ทุเรียน ยางพารา และ ไม้ปาติเกิลบอร์ด เป็นต้น ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญ ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนถ่ายการขนสินค้าจากถนนมาสู่ระบบราง สินค้าคอนเทนเนอร์ การส่งเสริมการประหยัดพลังงาน และการลดปัญหามลพิษทางอากาศ
รวมไปถึงการพัฒนาระบบขนส่งทางราง จะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่โดยตรง ให้สามารถนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น ขนส่งกับทางรถไฟเพื่อเป็นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การเดินทาง และยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถระบบขนส่งของประเทศ ให้สามารถแข่งขันทัดเทียมกับนานาประเทศและก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียนต่อไป
ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่สนใจใช้บริการขนส่งสินค้า ภาคเกษตร หรือภาคอุตสาหกรรมสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง./
////////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน