นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 (ไตรภาคี) ครั้งที่ 3/2567 กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็นครั้งที่ 2 ของปีงบประมาณ 2567 และมีการปรับสูตรการพิจารณาใหม่ ที่อิงกับ ภาวะเงินเฟ้อ ประเภทการทำงาน ทักษะฝีมือแรงงาน ที่สำคัญคือไม่ได้ปรับทั้งประเทศ ซึ่งรอบนี้มีเพียง 10 จังหวัดนำร่อง และปรับในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก โดยเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท
ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เฉพาะเขตปทุมวัน และเขตวัฒนา, จังหวัดกระบี่ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง, จังหวัดชลบุรี เขตเมืองพัทยา, จังหวัดเชียงใหม่ เขตเทศบาลนครเชียงใหม่, จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขตเทศบาลหัวหิน, จังหวัดพังงา เขตเทศบาลตำบลคึกคัก, จังหวัดภูเก็ต ทั้งจังหวัด, จังหวัดระยอง เขตตำบลบ้านเพ, จังหวัดสงขลา เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตอำเภอเกาะสมุย
สำหรับการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการที่พัก โรงแรม ต้องเป็นกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป และมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 2 เม.ย. 2567 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันในวันที่ 13 เม.ย. เป็นต้นไป และจะรายงานให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รับทราบต่อไป ซึ่งภายในสัปดาห์หน้า จะทราบจำนวนลูกจ้างทั้งหมดที่ได้รับผลประโยชน์ในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มธุรกิจต่อไปที่จะมีการพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ คือ กลุ่มธุรกิจภาคการส่งออก โลจิสติกส์