ธ.ก.ส.จับมือ กรมส่งเสริมการเกษตร ปั้นเกษตรกรรุ่นใหม่ 50,000 ราย ภายในปี 71 พร้อมเตรียมวงเงินสนับสนุนรวม 5.5 หมื่นล้าน
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับกรมส่งเสริมการเกษตร ว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ 50,000 คน สู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรชั้นนำภายในปี 2571 สนับสนุนให้นำองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ (Added Value)
พร้อมผลักดันสู่การเป็นหัวขบวน ที่สามารถนำองค์ความรู้มาพัฒนาการดำเนินงาน และแบ่งปันให้กับเกษตรกรในท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ อันนำไปสู่การ ต่อยอดธุรกิจ ที่ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. วางเป้าหมายสู่การเป็น “แกนกลางการเกษตร” (Essence of Agriculture) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อยกระดับรายได้สู่ภาคการเกษตรใน 4 ด้าน คือ 1.เงินทุน 2.เทคโนโลยี 3.สร้างมูลค่าเพิ่ม (Added Value) 4.องค์ความรู้และการตลาด
โดยจะสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่มีอายุไม่เกิน 45 ปี และมีความต้องการเข้ามาร่วมพัฒนาอาชีพทางการเกษตร มีทักษะการบริหารจัดการทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม มีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยมีการเชื่อมโยงเครือข่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรอิสระ สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัย ในการเติมเต็มศักยภาพผ่านหลักสูตรการอบรมออนไลน์และออนไซต์
โดยการอบรมจะครอบคลุมทุกมิติ เช่น Financial Literacy Digital Literacy การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต การแปรรูป ดีไซน์ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และการพัฒนามาตรฐานสินค้าไปสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูง โดยสร้างรูปแบบและช่องทางการตลาดแบบใหม่ ๆ และการเป็น Influencer เป็นต้น
พร้อมผลักดันสู่การเป็นเกษตรกรหัวขบวน ที่สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายตลอดห่วงโซ่การผลิต เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ดังกล่าว จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคการเกษตรของไทย ในการเข้าสู่เวทีการแข่งขันในตลาดโลก
โดยมีเป้าหมายการพัฒนาในช่วง ปี 2567-2571 ปีละ 10,000 ราย รวม 50,000 ราย โดย ธ.ก.ส. พร้อมสนับสนุนเงินทุน และเงื่อนไขพิเศษในการต่อยอดธุรกิจรวมวงเงิน 5.5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยผ่านสินเชื่อ BCG Model วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท ได้แก่ สินเชื่อเพื่อเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy Credit) สินเชื่อเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy Credit) สินเชื่อสีเขียว (Green Credit) และสินเชื่อแทนคุณ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Young Smart Farmer เข้ามาทดแทนเกษตรกรที่สูงอายุ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ผ่านหลักสูตรการพัฒนากับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้วกว่า 27,000 ราย การร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการเติมเต็มศักยภาพ เพื่อพัฒนาเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มทักษะในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจให้มากขึ้น และจะเป็นการสร้างเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตรให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป