ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ความสัมพันธ์ไทย - จีน และ เศรษฐกิจเพื่อนบ้าน ย้อนกลับ
แพทองธาร นำ เพื่อไทย ถก รมต.จีน ย้ำหนุนการค้าผ่านแลนด์บริดจ์
31 มี.ค. 2567

"แพทองธาร“ นำพรรคเพื่อไทยหารือ รมต.พรรคคอมมิวนิสต์จีน ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผ่านโครงสร้างการขนส่งระบบรถไฟ และโครงการแลนด์บริดจ์ ด้าน รมต.จีน รับปากเร่งให้มีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมโยงจีน-ลาว-ไทย พร้อมเสนอไทยจัดตั้งศูนย์ซอฟต์พาวเวอร์ไทยในกรุงปักกิ่ง

วันที่ 31 มี.ค. 2567 ที่พรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และโฆษกพรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย และรองประธานกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายพลนชชา จักรเพ็ชร กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และนางสาวชยิกา วงศน์ภาจันทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้อนรับ นายหลิว เจี้ยนเชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย 

นางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวต้อนรับ  พณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ในการนี้ว่าถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับมิตรที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน และถือเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ นโยบายการต่างประเทศต่างๆ และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ซึ่งประเทศจีนถือเป็นประเทศแรกนอกอาเซียนที่นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ไปเยือนหลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการแสดงถึงความสำคัญที่รัฐบาลไทยชุดใหม่ที่มีต่อประเทศจีน

นางสาวแพทองธาร ได้ร่วมพูดคุยถึงประเทศไทยภายใต้การนำของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีแผนการดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผ่านการวางโครงสร้างการขนส่งทั้งระบบรถไฟ และโครงการแลนด์บริดจ์ ที่จะเชื่อมต่อเส้นทางการค้าไทย-จีน ให้สะดวกมากขึ้น ในปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ในขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 ของจีน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 105,404 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้การลงทุนของนักลงทุนชาวจีนยังถือว่าเป็นชาวต่างชาติที่ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในไทยประจำปี 2565 ตนหวังว่านอกจากการสนับสนุนการสร้างงานและสินค้าท้องถิ่นไทยแล้ว บริษัทจากประเทศจีนจะช่วยส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อพัฒนานวัตกรรมไทยในระยะยาวอีกด้วย

นางสาวแพทองธาร ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ยังได้ใช้โอกาสนี้พูดถึง นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ และ 30 บาทรักษาทุกที่ ที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และหวังว่าในอนาคต นโยบายทั้งสองจะเป็นส่วนที่ทำให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีนเติบโต และมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี วิจัยทางการแพทย์ร่วมกัน
.
ขณะที่นายหลิว เจี้ยนเชา กล่าวว่า ไทยเป็นมิตรแท้ของจีนมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณ และ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และรู้สึกประทับใจที่นางสาวแพทองธาร ที่เป็นนักการเมืองหญิงรุ่นใหม่ มาต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยตัวเอง และยังมีวิสัยทัศน์ด้านความร่วมมือระหว่างไทย-จีนที่ครอบคลุมรอบด้านทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับโครงการสายแถบและเส้นทางของจีน (BRI) โดยฝ่ายจีนยินดีร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดกับไทยเพื่อเร่งผลักดันให้รถไฟฟ้าความเร็วสูง ระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 ที่จะเชื่อมโยงจีน-ลาว-ไทย อย่างมีนัยยะสำคัญ จึงต้องวางแผนล่วงหน้าเพื่อโครงการนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ฝ่ายจีนยังได้แสดงความยินดีที่ทางมาเลเซียได้ตอบรับการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟฟ้า ไทย-มาเลเซียอย่างแข็งขันอีกด้วย เพราะจะเป็นการสานต่อให้รถไฟในภูมิภาคเอเชียเกิดขึ้นจริงได้

ขณะที่ นายหลิว เจี้ยนเชา กล่าวว่า จีนพร้อมให้ความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ และทราบว่านางสาวแพทองธาร เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ  ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่สำคัญ สำหรับการดึงดูดของนักท่องเที่ยวและส่งเสริมแบรนด์สินค้าท้องถิ่น

โดยฝ่ายจีนเชื่อว่าประเทศจีนเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดของประเทศไทย และยังไม่มีคณะกรรมาธิการซอฟต์พาวเวอร์ จึงหวังที่จะแลกเปลี่ยนศึกษาเรียนรู้จากประเทศไทย ด้วยการเสนอให้ไทยจัดตั้งศูนย์ซอฟต์พาวเวอร์ไทยในกรุงปักกิ่ง พร้อมเชิญนางสาวแพทองธารเยือนจีนอย่างเป็นทางการในโอกาสแรก เพื่อส่งเสริมผลักดันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในทุกมิติต่อไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...