ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
กาญจนบุรี - ชาวเมียนมา ถูกบังคับเป็นทหารเลยต้องหนี!!
02 เม.ย. 2567

        วันนี้ 2 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 มอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์  รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม  (ปป.)หัวหน้าชุดควบคุมด่านความมั่นคงตามแนวชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามตามแผนปฏิบัติการ ตำรวจภูธรภาค 7 เรื่องการบูรณาการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจด้านความมั่นคงน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี  ซึ่งด่านดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบและควบคุมบังคับบัญชา โดยมี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวืลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.กิตติณัติ์  ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.134 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี ให้การต้อนรับ

        โดย พ.ต.องพงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม(ปป.) ได้ร่วมพูดคุยหารือเพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและสิ่งของผิดกฎหมายทั้งทางบกและทางน้ำ จากพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ตอนในของไทย  และนอกจากนี้ พ.ต.อ.พงษกรฯ ได้เป็นตัวแทน ผบช.ภ.7 นำอาหารแห้งและน้ำดื่มมอบให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่  และขอชื่นชมที่มีผลการจับกุมสิ่งผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกำชับการปฏิบัติการตั้งจุดตรวจร่วมตามนโยบายของ ผบช.ภ.7 โดยเน้นการตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะทุกคัน หากพบการกระทำความผิดให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกราย โดยไม่มียกเว้น

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ กำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบรถยนต์ที่ผ่านเข้าออกบริเวณจุดตรวจด้านความมั่นคงน้ำเกิ๊ก อยู่นั้น ก็ได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวืลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี ว่าคณะเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังไล่ติดตามจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายขณะกำลังขึ้นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ผจ 1743 นครสวรรค์ โดยคนขับสามารถทิ้งรถหลบหนีไปได้พร้อมกับแรงงานอีกจำนวน 7 คน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเอาไว้ได้ จำนวน 3 คนเป็นชายทั้งหมด โดยภายในรถยนต์กระบะพบกระเป๋าเสื้อผ้าของกลุ่มแรงงานที่วิ่งหลบหนีไปได้จำนวนหลายใบ และมีพบรองเท้าอีกหลายคู่ถูกถอดทิ้งเอาไว้ตามถนนลูกรัง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในสวนของประชาชนในพื้นที่หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี

      เวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าริมทางถนนสาย 323 โค้งตัวเอส เขตติดต่อระหว่าง หมู่ 1 ต.หนองลู และหมู่ 4 ต.ปรังเผล เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจสะพานรันตี จึงสนธิกำลังเข้าไปตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมด จำนวน 14 คน เป็นชาย 11 คน หญิง 3 คน จากนั้นจึงคุมตัวทั้งหมดไปสอบปากคำที่ สภ.สังขละบุรี โดยที่ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ได้เดินทางไปสอบปากคำเบื้องต้นด้วยตัวเอง

       จากการสอบถามข้อมูลผ่านล่าม เบื้องต้นทราบว่าแรงงานทั้งหมดไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือต้องการเดินทางมาทำงานในประเทศไทย เพราะทนพิษเศรษฐกิจรวมทั้งสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นภายในประเทศเมียนมาไม่ได้ และที่สำคัญหากไม่หนีข้ามแดนเข้ามาภายในประเทศไทยทุกคนจะต้องถูกจับกุมตัวและถูกบังคับให้ไปเป็นทหารเพื่อหยิบอาวุธปืนขึ้นมายิงต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหารเมียนมา 

        และกว่าจะเดินทางข้ามชายแดนหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยได้นั้น ต้องเดินทางทั้งทางรถยนต์และเดินเท้าหลบเลี่ยงการจับกุมของทหารเมียนมา โดยใช้เวลานานถึง 11 วันกว่าจะเข้ามาในประเทศไทยได้ ขณะนี้มีชาวเมียนมากำลังมุ่งหน้าหลบหนีเข้ามาในไทยอีกเป็นจำนวนมากพอสมควร 

        แรงงานบางรายบอกว่าเคยเข้ามาทำงานที่ร้านขายพลอย ในพื้นที่อำเภอบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายไทยต่อไป
   //////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...