รมว.สธ. เผย รพ. สังกัด สธ. 99.7% ผ่านเกณฑ์เป็น รพ.อัจฉริยะ รองรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เชื่อมข้อมูลผ่าน หมอพร้อม กว่า 40 ล้านคน ขณะที่ ปชช.พอใจใช้บริการจัดส่งยาถึงบ้าน Health Rider สูง ผลสำรวจพบชอบจนท.พูดจาดี 99.5% ลดรอคอยได้เกือบ 100%
ผ่านไปแล้วสำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ จ.นครราชสีมา กับนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 ใน 8 จังหวัด ก่อนจะครบ 3 เฟสในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะครอบคลุม 45 จังหวัดให้บริการประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพ
ซึ่งเรื่องนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการขับเคลื่อน นโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 ว่า รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการตามไทม์ไลน์ ตั้งแต่
สำหรับ ระยะที่ 2 ดำเนินการไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ใน 8 จังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดเป็นตัวแทนของแต่ละเขตสุขภาพ โดยเพชรบูรณ์ เป็นตัวแทนของเขตสุขภาพที่ 2,นครสวรรค์ เป็นตัวแทนของเขตสุขภาพที่ 3, สิงห์บุรี เป็นตัวแทนของเขตสุขภาพที่ 4, สระแก้ว เป็นตัวแทนของเขตสุขภาพที่ 6, หนองบัวลำภู เป็นตัวแทนของเขตสุขภาพที่ 8, นครราชสีมา เป็นตัวแทนของเขตสุขภาพที่ 9, อำนาจเจริญ เป็นตัวแทนของเขตสุขภาพที่ 10 และพังงา เป็นตัวแทนของเขตสุขภาพที่ 11
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ทั้งหมดให้บริการประชาชนแล้ว 100% โดยได้เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (Personal Health Record: PHR) ของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขครบทุกแห่งและทุกกองทุนสุขภาพ ปัจจุบันมีหน่วยบริการในสังกัด สป. สธ. 893 แห่ง จาก 902 แห่งทั่วประเทศ (ร้อยละ 99.7) ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการพัฒนาโครงสร้างเป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ มีการเชื่อมต่อ Application และไลน์ หมอพร้อม ทั่วประเทศแล้วกว่า 40 ล้านคน มีการนัดหมายและดำเนินการบริการระบบการแพทย์ทางไกล 55,446 ครั้ง ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล 81,317 ใบ มีการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์โดย Health Rider 55,376 ออเดอร์ ซึ่งกว่าร้อยละ 90 ของผู้รับบริการมีความพึงพอใจในระดับดีมาก
โดยผลสำรวจความพึงพอใจการรับบริการรับส่งยา จาก Health Rider ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 22 มีนาคม 2567 พบว่า ภาพรวมพึงพอใจสูงมากทุกมิติ แบ่งเป็น ด้านความรวดเร็ว ร้อยละ 99.2 ด้านเจ้าหน้าที่ส่งยาพูดจาสุภาพ ร้อยละ 99.5 ความสมบูรณ์ของพัสดุ 100 เปอร์เซ็นต์ และช่วยลดระยะเวลารอคอย ร้อยละ 99.5 ที่สำคัญร้อยละ 98.7 เห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์ ช่วยลดความแออัดในการรอรับยาที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอกได้
ปัจจุบันมีหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 188 แห่ง มี อสม.และบุคลากรสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการ 1,512 คน ให้บริการส่งยาถึงบ้าน 94,689 ครั้ง ส่งยาเป็นพัสดุ 43,745 ครั้ง และส่งยาด้วย Health Rider 50,944 ครั้ง หรือคิดเป็นร้อยละ 53.8
นพ.ชลน่าน กล่าวต่ออีกว่า สำหรับเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้สั่งการให้โรงพยาบาล หน่วยบริการทุกแห่งยกระดับการป้องกันและสร้างความปลอดภัยขั้นสูงสุด รองรับไปสู่การขยายบริการตามนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวไปสู่ระยะที่ 3 ในช่วงเดือนพฤษภาคม จะครอบคลุม 45 จังหวัด ได้แก่
เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี สระบุรี นนทบุรี ลพบุรี อ่างทอง นครนายก สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย หนองบัวลำภู บึงกาฬ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เพชรบูรณ์ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด สระแก้ว อำนาจเจริญ และพังงา
จากนั้นก็จะเข้าสู่ ระยะที่ 4 โดยเป้าหมายต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลครอบคลุมทั้งประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการของประชาชน และอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทุกคน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขยังได้รับความร่วมมือจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์