ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ความสัมพันธ์ไทย - จีน และ เศรษฐกิจเพื่อนบ้าน ย้อนกลับ
นักลงทุนจีนมั่นใจในไทย ชี้ 3 แรงส่ง ‘ท่องเที่ยว-ลงทุน-แล้ง’ ดันศก.ปี’67 โตแตะ 3%
07 เม.ย. 2567

เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทย มองว่าครึ่งหลังปี 2567 จะดีกว่าครึ่งแรกของปี และมีโอกาสที่จีดีพีจะโตได้ 3% จาก 3 แรงส่งสำคัญ คือ 1.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาวจีนหลังการใช้มาตรการวีซ่าฟรียอดเดินทางเข้ามากขึ้น และอย่างต่ำ 8-10 ล้านคนในปีนี้ จากเป้าหมายรวมต่างชาติเที่ยวไทยเกิน 30 ล้านคน 2.การลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนและเปิดกิจการในไทยมากขึ้น โดยไม่น้อยที่ไม่ผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ล่าสุด ทุนใหญ่จากสหรัฐเข้ามาลงทุนขยายตลาดในกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์และตกแต่ง กลุ่มยานยนต์อีวีและพลังงานทางเลือก เช่น พลังงานลม ทยอยเข้ามาลงทุนสูงขึ้น 3.ภาวะอากาศแปรปรวน ร้อนแล้งและพายุเกิดไปทั่วโลก กระทบต่อผลผลิตในประเทศต่างๆ ต้องเพิ่มการนำเข้า ซึ่งไทยเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรและอาหาร เช่น ข้าว ผักผลไม้ จะได้รับอานิสงส์นี้และส่งออกได้มากขึ้น
“จากผลสำรวจนักลงทุนจีนในไทย ถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในไทย มีมุมมองดีขึ้นและสูงขึ้นในครึ่งปีหลัง สะท้อนถึงความมั่นใจต่อการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งไม่แค่นักลงทุนจีน แต่กำลังเห็นการเข้ามาของทุนสหรัฐ ยุโรป สนใจต่อการขยายการค้าและลงทุนในเอเชียมากขึ้น ซึ่งไทยก็มีศักยภาพรองรับการลงทุนจากทั่วโลกได้ อย่างไรก็ตาม หอการค้าฯก็ได้หารือใกล้ชิดกับภาครัฐและภาคเอกชนด้วยกัน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ”

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับปัจจัยต่างๆ ที่กำลังเป็นประเด็น เรื่องแรกที่กระทรวงการคลังเตรียมเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท และกำหนดให้แพลตฟอร์มเป็นผู้นำส่งภาษีนั้น มองว่าสมน้ำสมเนื้อ เชื่อว่าจีนเข้าใจและไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ เพราะวันนี้คนชินกับการสั่งสินค้าทางออนไลน์โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ และการออกไปกินหรือซื้อสินค้าในค้าปลีกไม่ได้มากเท่าก่อน ขณะเดียวกันผู้ผลิตในประเทศต้องปรับตัว อาจลดกำลังการผลิตและหันนำเข้าสินค้าสำเร็จรูปมาจำหน่ายแทน หรือร่วมทุนดึงเขามาลงทุนในไทยแทน เราจะได้ทั้งรายได้ค่าเช่าพื้นที่ เทคโนโลยี และลดความเสี่ยงต้นทุนจากสต๊อกเหลือ ที่ผ่านมาจีนขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ไปทุกมณฑล เชื่อว่าจากนี้ 10 ปี คงมีโครงการขนาดใหญ่ลดลง ดังนั้น การส่งเสริมการลงทุนนอกจีนก็จะเพิ่มขึ้น
สำหรับการทบทวนอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายของ กนง.นั้น ถ้าลดลงก็เป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่ต้องการคือการเข้าถึงแหล่งกู้ให้มากขึ้น จะสำคัญกว่าจะลดดอกเบี้ยเท่าไหร่ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีวันนี้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ต่ำมาก และในส่วนการปรับขึ้นค่าแรงงานรายวัน เห็นด้วย หากปรับขึ้นไปตามภาวะจริงก็จะไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะตอนนี้แรงงานทักษะมีรายได้ที่สูงกว่าพื้นฐาน

สำหรับ หอการค้าไทย-จีน ปี 2567 ยังคงบทบาทเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ไทย-จีน ทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมและการสร้างโอกาสเข้าสู่ตลาดจีนที่มีขนาดใหญ่กว่า 1,400 ล้านคน และจากการที่ประเทศจีนมีนโยบายส่งเสริมการเปิดกว้างระดับที่สูงขึ้นและขยายการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพสูง ดังจะเห็นได้ว่าในปี 2566 ที่ผ่านมา จีนนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคมูลค่า 274.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 1.95 ล้านล้านหยวน) ขยายตัว 1.2% จากปีก่อน นอกจากนี้ สถิติเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ามูลค่าของการนำเข้าสินค้าทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นการนำเข้าแบบขายปลีก มีมูลค่าถึง 141.77 พันล้านหยวน ในปี 2566 หรือเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ดังนั้น หอการค้าไทย-จีน มีแผนงานนำผู้ประกอบการไทย-จีน ในประเทศไทย เข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติ ครั้งที่ 7 (หรือ CCIE ครั้งที่ 7) ระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายนนี้ ที่นครเซี่ยงไฮ้ เนื่องด้วยงาน CIIE นี้เป็นมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญมาก ที่จะสร้างตลาดขนาดใหญ่ของจีนให้กลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ของโลก จึงเชื่อมั่นว่าการร่วมงาน CIIE ครั้งนี้ เปิดโอกาสให้สินค้าอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นที่รู้จักและสามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้สะดวกยิ่งขึ้น และเข้าร่วมการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก หรือ WCEC ครั้งที่ 17 เดือนกันยายนปีนี้ ที่มาเลเซีย และนำคณะเยือนมณฑลต่างๆ ของจีน
สำหรับการค้าระหว่างประเทศไทยและจีน ช่วง 2 เดือนแรก 2567 ขยายตัว 7.15% มีมูลค่า 17,035 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกของไทยไปจีน มีมูลค่า 4,555 ล้านเหรีญสหรัฐ หดตัว 2.01% ส่วนการนำเข้าจากจีน ขยายตัว 10.94% มีมูลค่า 12,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศไทยจึงเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ากับประเทศจีน 7,925 ล้านเหรียญสหรัฐ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...