วันนี้ 12 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ปริพนท์ จุลเจิม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดกาญจนบุรีได้กำหนดจัดงานประเพณีเทศกาลวันสงกรานต์ขึ้นระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.67 เชื่อว่าชาวกาญจนบุรีที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร จะพร้อมใจกันเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อมารวมญาติที่บ้านเกิด และเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาพักผ่อนและร่วมฉลองวันหยุดยาวเทศกาลประเพณีวันสงกรานต์ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีกันเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาพบว่าชาวจังหวัดกาญจนบุรีมักนิยมเล่นสาดน้ำในวันสงกรานต์เฉพาะวันที่ 17 เม.ย.ของทุกปี ส่วนในวันอื่นๆจะมีอยู่บ้างโดยเฉพาะพื้นที่รอบนอกเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ยกเว้นวันที่ 13 เม.ย.ซึ่งตรงกับปีใหม่ไทย จะมีการสืบสานวัฒนธรรมที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน ทั้ง การทำบุญ การรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ และการเล่นน้ำสงกรานต์
ทั้งนี้ สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี มีข้อแนะนำเล่นและสาดน้ำอย่างไรเพื่อให้ทุกคนปลอดภัย ดังนี้ ควรใช้ขันตักน้ำแล้วสาดน้ำใส่กัน เพราะการใช้ขันนั้นน้ำจะกระจายทำให้ไม่เกิดความรุนแรง ส่วนผู้ที่ใช้อุปกรณ์ประเภทปืนฉีดน้ำ ก็ขอให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง และขอให้ฉีดน้ำเข้าตามร่างกายที่มีส่วนที่หนาที่สุดคือตามลำตัว โดยอย่าได้ฉีดน้ำใส่ใบหน้า เพราะแรงดันของน้ำค่อนข้างรุนแรง อาจจะเกิดอันตรายต่อดวงตาของผู้อื่นได้ สำหรับแนวทางการป้องกันอันตรายจากปืนฉีดน้ำ ขอให้ผู้ปกครองจัดหาแว่นตาที่ใช้สำหรับว่ายน้ำหรือลงเล่นน้ำทะเลมาใส่ให้บุตรหลานรวมทั้งตัวเอง เพราะแว่นตาชนิดนี้สามารถป้องกันแรงดันจากการฉีดน้ำเข้าตาได้เป้นอย่างดี
และนอกจากนี้การสาดน้ำเล่นสงกรานต์ควรใช้น้ำที่สะอาด เช่น น้ำประปาที่ทางหน่วยงานภาครัฐจัดเตรียมเอาไว้ให้ตามจุดต่างๆ และควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่มีอยู่ในลำคลองดูแล้วไม่สะอาด เพราะในลำคลองดังกล่าวนั้นมีทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส อะมีบา ปนเปื้อนอยู่ ซึ่งจะทำให้ดวงตาเกิดการอักเสบได้ การเล่นน้ำปะแป้งก็เช่นกัน หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยง เพราะแป้งที่ผสมน้ำจะกลายเป็นเม็ด จะส่งผลกระทบต่อดวงตาได้เช่นกัน หรือหากต้องการปะแป้งก็ควรจะขออนุญาตกันเสียก่อนเพื่อแสดงถึงมารยาทที่งดงามตามประเพณีไทย
ขณะเดียวกันสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ขอประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ปกครองว่า หากบุตรหลานหรือญาติดื่มสุราเข้าไปจนมึนเมา ก็ขอให้ว่ากล่าวตักเตือนอย่าให้ขับขี่รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ออกมาเล่นน้ำตามทางสาธารณะ เพราะการมึนเมาเป็นบ่อเกิดของการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอาจจะทำให้ตัวผู้ปกครองมาเสียใจในภายหลังได้
/////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน