ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันชดใช้เงิน 1,030,000 บาท แก่มารดาของนายชาลี ไล้โจ่ ชาวกะเหรี่ยง ที่ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งยิง เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพงษ์ กองจันทึก ที่ปรึกษาสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม (LAPA) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกากรณี นายชาลี ไล้โจ่และหลานคือนายสาธิต เจิ่งป่อง ทั้งสองเป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง อยู่ที่ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้าป่าหาเห็ดมาประกอบอาหาร เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 แต่ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ จนทำให้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่อ้างเหตุป้องกันตัว เนื่องจากนายชาลียกปืนขึ้นเล็งจะยิงเจ้าหน้าที่ ต่อมาอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเจ้าหน้าที่ในความผิดคดีอาญา
ชาวบ้านญาติของนายชาลีเห็นว่านายชาลีถูกยิงจากด้ายหลังขณะวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ ไม่ได้ต่อสู้การจับกุมตามที่เจ้าที่กล่าวอ้าง ได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อสิ่งมวลชน และขอความช่วยเหลือมาที่สมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม นำมาสู่การฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมารดา ภรรยา และลูกของนายชาลี
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษากลับ โดยเห็นว่า การที่นายพรศักดิ์(เจ้าหน้าที่อุทยานฯ)ใช้อาวุธปืน เอช เค 33 ยิงผู้ตาย เป็นเหตุให้กระสุนปืนถูกศีรษะผู้ตายจนถึงแก่ความตาย จึงเป็นการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งนายพรศักดิ์จักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ จึงเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นการละเมิดต่อผู้ตาย
จำเลยทั้งสองคือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนในผลแห่งละเมิดของนายพรศักดิ์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของตน ที่ได้กระทำในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
พิพากษากลับว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ที่ ๑ (มารดานายชาลี) เป็นค่าขาดไร้อุปการะ 1,000,000 บาท และค่าปลงศพ 30,000 บาท
นางสะเปียส่า ไล้โจ่ มารดาของนายชาลี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้รับความเป็นธรรมจากศาล ที่ผ่านมาอยู่คนเดียว มีชีวิตยากลำบาก เพราะขาดลูกชายที่คอยดูแล
/////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน