ก.แรงงานหนุนจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 67 พร้อมเปิดพื้นที่รับฟังข้อเรียกร้อง ย้ำแรงงานเป็นกำลังผลักดันเศรษฐกิจสังคมไทย
นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ โดยรัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 1 พ.ค. ของทุกปี เป็นวันแรงงานแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันสำคัญของพี่น้องแรงงานที่เป็นกำลังในการผลักดันและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เติบโตก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ในปีนี้สภาองค์การลูกจ้าง 16 แห่ง สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ ได้เห็นชอบให้นายทวี ดียิ่ง ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานอุตสาหกรรมเอกชน เป็นประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยรัฐบาลให้การสนับสนุนงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ และอำนวยความสะดวกแก่คณะกรรมการจัดงาน ที่สำคัญจะเป็นโอกาสให้ผู้ใช้แรงงานได้นำเสนอข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ต่อรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงแรงงานจะนำมาดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องแรงงานต่อไป
สำหรับการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติในปีนี้ จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 1 พ.ค. ณ บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เริ่มตั้งแต่เวลา 07.30 น. พิธีสงฆ์ มีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธี เวลา 08.45 น. ริ้วขบวนลูกจ้างผู้ใช้แรงงาน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน เคลื่อนออกจากบริเวณแยก จปร. ถ.ราชดำเนินนอก ไปยังลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพหานคร เวลา 11.00 น. พิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2567 ซึ่ง นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธานในพิธี โดยประธานคณะกรรมการจัดงานจะแถลงข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ และยื่นต่อรองนายกรัฐมนตรี จากนั้นรองนายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมนิทรรศการของกลุ่มผู้ใช้แรงงานและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ณ เต็นท์กิจกรรมกระทรวงแรงงาน
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงแรงงานมีของขวัญวันแรงงานให้กับผู้ใช้แรงงาน เช่น การผลักดันอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 เพื่อส่งเสริมเสรีภาพและคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว ฉบับที่ 98 สิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง ซึ่งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาไม่เคยผ่านขั้นตอนแรก รวมทั้งการขยายเวลาให้เงินกู้สำหรับแรงงานอิสระที่รับงานไปทำที่บ้าน ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ออกไปจนกว่าจะครบวงเงินกู้ โดยปลอดดอกเบี้ยในช่วง 2 ปีแรก เป็นต้น