กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การพัฒนายกระดับร้านค้าชุมชน” เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมฐานรากให้มีความแข็งแกร่ง ผลักดันสู่การเป็นร้านค้าประชารัฐไฮบริด ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมจัดงาน “สร้างเศรษฐกิจชุมชน รวมพลคนฐานราก” เปิดตลาดให้ผู้ประกอบการ เพื่อขยายช่องทางการขายสู่ห้างสรรพสินค้า
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยถึง แนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) ผ่านกลไกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในการเป็นศูนย์กลาง และโครงข่ายการเรียนรู้ เงินทุน สวัสดิภาพ สวัสดิการ และการแก้ไขปัญหาของหมู่บ้านและชุมชน เพื่อยกระดับสู่ความสำเร็จในยุค 4.0 ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ตลอดจนสามารถพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน โดยใช้การตลาดยุคใหม่ในการเชื่อมโยงช่องทางการตลาดต่างๆ รวมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามารถช่วยเหลือและสนับสนุนกันได้อย่างไม่มีรอยต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของร้านได้ทุกที่ และทุกเวลาอย่างแท้จริง หรือที่เรียกว่า ‘Omni-Channel’ เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีที่เป็นเครื่องมือทางการตลาด เพื่อเพิ่มยอดการค้าขายสินค้าให้กับร้านค้าชุมชน
จากแนวทางที่พร้อมสู่การปฏิบัติ จึงทำให้กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ร่วมมือกันจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การพัฒนายกระดับร้านค้าชุมชน” พร้อมทั้งจัดงาน “สร้างเศรษฐกิจชุมชน รวมพลคนฐานราก” เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าของสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ด้วยการสร้างองค์ความรู้ของการเป็นผู้ประกอบการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การบริหารจัดการ การตลาด และพัฒนาต่อยอดไปสู่การเป็นร้านค้าประชารัฐไฮบริด
สำหรับไฮไลท์การจัดงานในครั้งนี้ คือ “ร้านค้าประชารัฐไฮบริดต้นแบบ” ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการ เพื่อให้ลูกค้าได้สิ่งที่ต้องการ บริการที่ลดเวลาและลดค่าใช้จ่าย หรือกระทั่งลดความยุ่งยากในการชำระเงินและการส่งสินค้า ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในเมืองไทย นั่นคือ Cashless Society หรือสังคมไทยไร้เงินสด ทั้งการรับจ่ายด้วยเงินออนไลน์ ไม่ว่าจะช้อปปิ้ง ชำระบิล ผ่าน QR Code
นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย อาทิ สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ผู้ประกอบการแฟรนไชส์และเอสเอ็มอีที่ได้รับการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสมาชิกเครือข่าย MOC Biz Club และ OTOP Select รวมกว่า 200 ราย นำสินค้ามาร่วมจำหน่ายภายในงาน รวมถึงได้จัดพื้นที่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่าง Buyer จำนวน 14 ราย เช่น Tesco Big C Central The Mall กับผู้ประกอบการที่ร่วมออกบูท รวมทั้งจัดพื้นที่คลินิกให้คำปรึกษาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้าง แบรนด์ การพัฒนาแพคเกจจิ้ง ด้านการตลาด โดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพและสถาบันการศึกษา
รมว. กล่าวต่อไปว่า การสร้างความเข้มแข็งร้านค้าชุมชนสู่การเป็นภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม สามารถสะท้อนความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่สำคัญร้านค้าชุมชนจะสามารถอยู่ร่วมกับร้านค้าสมัยใหม่ (Modern Trade) ได้รวมถึงปรับตัวให้ดำเนินธุรกิจบนช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ซึ่งจะทำให้ร้านค้าชุมชนมีความเข้มแข็ง และมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
ดังนั้น สิ่งสำคัญและเป็นเคล็ดลับความสำเร็จให้ธุรกิจสามารถอยู่รอด คือ การตั้งเป้าหมายที่สูงกว่าแค่ตัวเลขทางธุรกิจแต่เป็นเป้าหมายทางสังคมที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี และตอกย้ำในความเชื่อของการทำธุรกิจ จึงเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากความสามารถ พร้อมความโปร่งใสในการทำธุรกิจที่ไม่ซ้ำใคร บวกความตั้งใจที่จะทำธุรกิจด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน