ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสมนึก สิทธิการณา พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีพบน้ำปนในน้ำมันดีเซล B7 ส่งผลทำให้รถยนต์ ยี่ห้อ Ford ของผู้ร้องได้รับความเสียหาย โดยผู้ร้องแจ้งว่าเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 ตนได้นำรถยนต์ยี่ห้อ Ford ไปเติมน้ำมันดีเซล B7 ที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง แห่งหนึ่งในอำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 1,000 บาท และหลังจากเติมพบความขัดข้องทำให้เครื่องยนต์น็อค และระบบแจ้ง Water in Fuel Drain Filter จึงถามหาความรับผิดชอบจากเจ้าของปั๊มในวันเดียวกัน ซึ่งเจ้าของปั๊มยินยอมชดใช้ค่าเสียหายโดยให้ผู้ร้องนำรถไปประเมินความเสียหาย
และในวันต่อมาผู้ร้องแจ้งค่าเสียหาย จำนวน 120,000 บาท แต่เจ้าของปั๊มกลับไม่ยินยอมตามที่ผู้ร้องแจ้งและให้ผู้ร้องไปเรียกร้องค่าเสียหายในชั้นศาล ผู้ร้องจึงดำเนินการแจ้งความกับพนักงานตำรวจในท้องที่ และสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับประสานรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์และรายการโหนกระแส ช่อง 3 เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานนั้น
ในการนี้จังหวัดกาญจนบุรี โดยสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ทันทีในวันที่ 26 เมษายน 2567 (วันเดียวกับที่ผู้ร้องแจ้ง) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและจัดเก็บตัวอย่างน้ำมันเชื้อเพลิงส่งให้กองคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงวิเคราะห์คุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมาย จำนวน 1 ตัวอย่าง ซึ่งสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี จะดำเนินการจัดส่งตัวอย่างให้ห้อง Lab ศรีราชา ในวันที่ 29 เมษายน 2567
และในวันนี้(30/4/67) จังหวัดกาญจนบุรี โดยสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ ข้อเท็จจริงกับ นายสิทธิพร (สงวนนามสกุล)ผู้แทนของปั๊มดังกล่าวในวันนี้ จากการสอบถาม นายสิทธิพร (สงวนนามสกุล) ผู้แทนปั๊มดังกล่าว เกี่ยวกับเหตุณ์การณ์ ต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการค้าเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 ได้ข้อเท็จจริงดังนี้
น้ำมันดีเซล (B7)ที่บีบออกจากหัวจ่ายหมายเลข ชบ 401-0171-62 ในวันเกิดเหตุวันที่ (22 เมษายน 2567) เป็นน้ำมันที่มีน้ำเจือปนน้ำอยู่จริงตามคลิปที่ปรากฏอยู่ในรายการข่าว ซึ่งนางสาวยุพิน(ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้บีบตัวอย่างและได้พบว่ามีน้ำอยู่เต็มภาชนะที่รองในวันเกิดเหตุ หลังจากนั้นได้มีการแจ้งทางบริษัทผู้รับเหมาให้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและพบว่ามีน้ำเจือปนอยู่ 100 ลิตรโดยประมาณ ซึ่งไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากสาเหตุใด โดยในวันเกิดเหตุตามข้อมูลในบัญชีคุมปริมาณน้ำมันของสถานีบริการโดยมีปริมาณน้ำมันดีเซล(B7) อยู่ในครอบครองจำนวน 1,050 ลิตร ซึ่งปัจจุบัน สถานีบริการได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาข้างต้นแล้ว เพื่อให้กลับมาขายได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2567
จังหวัดกาญจนบุรี โดยร้อยโท ทศพล ไชโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สั่งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องฯ เร่งดำเนินการดังกล่าว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่ ในการนี้จังหวัดกาญจนบุรีให้ความความเข้มงวดในการตรวจมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างความมั่นใจให้ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว มิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อขายสินค้า และรักษาความเป็นธรรมให้กับประชาชน
นางสมนึก สิทธิการณา พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานพลังงานมีอำนาจหน้าที่ที่จะต้องดูแลคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงที่จำหน่ายออกจากสถานีบริการน้ำมันให้มีคุณภาพ ซึ่งโดยปกติการควบคุมคุณภาพน้ำมันจะมีการควบคุมตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง
ในกรณีที่เกิดเหตุครั้งนี้หลังจากที่สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรีได้รับการร้องเรียนเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา พลังงานจังหวัดกาญจนบุรีได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบในทันที โดยได้มีการตรวจสอบในเบื้องต้นเพื่อให้มีความมั่นใจว่าขณะที่มีการจำหน่ายน้ำมันนั้นเป็นน้ำมันที่ไม่มีน้ำปนแล้ว ส่วนกรณีพบการกระทำความผิดขณะนี้พลังงานจังหวัดกาญจนบุรีกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลหลักฐาน
ซึ่งพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ เอาไว้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้พนักงานสอบสวนมาสอบปากคำ ส่วนด้านคดีจะเป็นการดำเนินคดีตาม พรบ.เกี่ยวกับการค้าน้ำมันที่มีการจำหน่ายน้ำมันไม่มีคุณภาพให้กับประชาชน มีความผิดตาม พรบ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2543 มาตรา 25 วรรค 3 จำหน่ายน้ำมันที่แตกต่างจากที่อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานประกาศกำหนด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีน้ำผสมอยู่กับน้ำมันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งเจ้าของปั๊มจะต้องถูกดำเนินคดีตามมาตรา 48 บทลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีนี้พบว่ามีน้ำมันเกินกว่า 200 ลิตร จึงมีความผิดฐานปลอมปนน้ำมันด้วย ตามมาตรา 50 มีบทลงโทษ จำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับคลิปที่ผู้เสียหายนำไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊กนั้น สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรีสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานได้ด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าระบบการควบคุมน้ำมันที่สถานีบริการทั่วประเทศ จะมีหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องน้ำมันเริ่มตั้งแต่ต้นทางเช่นโรงกลั่นน้ำมันหรือคลังน้ำมันขนาดใหญ่มาจนถึงปลายทางคือสถานีบริการน้ำมันทุกแห่งทั่วประเทศอยู่แล้ว
////////////////////////////////////////////////////////
หมายเหตุ...เจ้าของปั๊มไม่อยู่เข้า กทม.