ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตากชาวบ้านเปิ่งเคลิ่ง ที่ปลูกหมากประสบปัญหา เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หมากสดขายไม่ได้ จำเป็นต้องนำหมากสุก ตากแห้ง ตกค้างยังขายไม่ได้หลายสิบตัน
นายคมสันต์ การะเกดพนาอายุ 43 ปี ชาวตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตากได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีอาชีพปลูกหมาก โดยในพื้นที่บ้านเปิ่งเคลิ่ง มีพื้นที่ปลูกหมากกว่า 4,000 ไร่ เมื่อปีที่ผ่านมาประสบปัญหาหมากสดขายไม่ได้ จึงต้องตากแห้งขาย ณ เวลานี้หมากแห้งของตนเองยังขายไม่ได้ ประมาณ10- 20 ตันและของเพื่อนบ้านกว่า 50 ตัน จึงอยากให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาพ่อค้ามาช่วยซื้อให้หน่อย และอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในช่วงนี้หมากสดหรือหมากอ่อน มีพ่อค้ามาซื้อในราคา 60 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ดีและแพง ตนเองหวั่นกลัวหมากเพื่อนบ้านทะลักเข้ามาในพื้นที่ทำให้ราคาตก จึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ ไม่อยากให้หมากนำเข้ามานั้นจะมีผลกระทบกับเกษตรกร ที่ปลูกหมากในประเทศไทย โดยเฉพาะมีผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหมากบ้านเปิ่งเคลิ่งโดยตรง ซึ่งขายกันในวันต่อวัน แต่วันนี้ขายเกษตรกรขายหมากสดได้ กิโลละ 60 บาท ถือว่าราคาดี ทำให้เกษตรกรในปีนี้ลืมหูลืมตา แต่ถ้าหมากประเทศเพื่อนบ้านทะลักเข้ามาราคา ล่วงแน่นอน ซึ่งจะมีผลกระทบกับผู้ปลูกหมากในประเทศไทย ตนเองและเพื่อนบ้านที่ปลูกหมาก พร้อมเกษตรกรที่มีสวนหมาก ได้ประชุมปรึกษาหารือกันและไม่ยอมให้หมากจากประเทศเพื่อนบ้านที่ลักลอบเข้ามา โดยเด็ดขาด
ส่วนนายธนาคาร รักชาติ อายุ 35 ปี เกษตรกรผู้ปลูกหมาก ที่บ้านเปิ่งเคลิ่ง บนเนื้อที่จำนวน 14 ไร่ วันนี้เก็บหมากสดขายในราคากิโลละ 60 บาท ตนเองจ้างคนขึ้นหมากในราคากิโลกรัมละ 10 บาท ซึ่งนำไปขายให้พ่อค้าในราคากิโลกรัมละ 60 บาท ราคาขึ้นลงแต่ละวันไม่เหมือนกัน ตนเองพอใจในราคานี้ ถือว่าดี เพราะ 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีพ่อค้ามารับซื้อ ปีนี้ถือว่าราคาดีพอใช้ได้
ด้านนายมาโนช โพธิ์เนียมนายอำเภออุ้มผาง กล่าวว่า ตนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชายแดน ที่บ้านเปิ่งเคลิ่ง ได้พบกับพี่น้องประชาชนเกษตรกรผู้ปลูกหมาก ได้ทราบปัญหาและความเดือดร้อนและใด้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ตรวจสอบ สอดส่องและดูแล การลักลอบนำสินค้าทางการเกษตรเข้าโดยไม่ผ่านศุลกากรเข้ามาโดยผิดกฎหมาย และสิ่งผิดกฎหมายขอให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองช่วยตรวจเข้มและกวดขันเพิ่มเติม แจ้งให้พี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ปฏิบัติหน้าที่และวันนี้ได้เดินทางมารับทราบปัญหาของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกหมากบ้านเปิ่งเคลิ่งที่ขายหมากแห้งยังไม่ได้ เป็นจำนวนหลาย 10 ตัน ตนจะหาหาแนวทางแก้ไข ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้แนะนำให้เกษตรกร ทำการจดทะเบียนกลุ่ม รวมกลุ่มผู้ปลูกหมาก เพื่อเป็นการรวมกลุ่มสร้างความเข้มแข็งและสามารถต่อรองราคา รวมกลุ่มกันขายและจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยในการแปรรูปหมากหรือผลิตภัณฑ์จากหมาก เพื่อยกระดับสินค้าต่อไป
สำหรับหมากเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนริมชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะที่บ้านเปิ่งเคลิ่ง เป็นหมู่บ้านที่ปลูกหมากจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับชุมชนแต่ละปี
ปัจจุบันบ้านเปิ่งเคลิ่ง ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ที่นี่มีจำนวนครัวเรือนกว่า 510 ครัวเรือน มีประชากรประมาณกว่า 4,077 คน เป็นหมู่บ้านชายแดน สุดเขตประเทศไทย ติดกับหมู่บ้านบ้านห้วยแดน อำเภอไจโด่ง จังหวัดกอแกล๊ก ประเทศเมียนมา เป็นหมู่บ้านที่ห่างจากตัวจังหวัดตาก กว่า 200 กิโลเมตร มีเส้นการเดินทางห่างจากตัวอำเภออุ้มผางถึงบ้านเปิ่งเคลิ่ง ระยะทาง 85 กิโลเมตร
ทั้งนี้ จากการรวมตัวของชาวเกษตรกร ผู้ปลูกหมาก บ้านเปิ่งเคลิ่ง ทราบว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ขายไม่ได้ราคา จึงปล่อยให้เป็นหมากแก่และสุก จึงนำมาตากแห้ง ปัจจุบันยังขายหมากแห้งไม่หมด ยังคงตกค้างและในปีนี้มากสุดเริ่มออกขายได้ในราคาดี กิโลละ 60 บาท หวั่นหมากต่างประเทศ หมากประเทศเพื่อนบ้านจะทะลักเข้ามาต่อเนื่อง
เกษมสันต์ ไชยเดช ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก