เมื่อวันที่ (2 พ.ค.)สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ร่วมประชุมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมเป็นการเร่งด่วน เพื่อกำหนดมาตรการระงับสัญญาณโทรคมนาคมบริเวณชายแดน
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ให้บริการบริเวณแนวชายแดนไทยช่วงที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ยังพบการกระทำที่อาจก่อให้เกิดการนำสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากผู้ให้บริการของไทยไปใช้ในการกระทำผิดหรือสนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การฉ้อโกงในลักษณะของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การพนันออนไลน์ การลักลอบขนส่งสินค้าหนีภาษี การลักลอบค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ และอาชญากรรมในลักษณะองค์กรอาชญากรรมหรืออาชญากรรมข้ามชาติ ก่อให้เกิดความเสียหายอันส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศอย่างรุนแรง รวมทั้งกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
นายไตรรัตน์ กล่าวต่อว่า เพื่อป้องกันและระงับยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นและให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น สำนักงาน กสทช. จึงจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ ด้วยการกำหนดมาตรการขั้นเด็ดขาดเกี่ยวกับการตั้งสถานีฐาน (Mobile Base station) โทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณแนวชายแดนเพื่อควบคุมไม่ให้การประกอบกิจการโทรคมนาคมสามารถนำสัญญาณ หรือปล่อยให้มีการนำสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากผู้ให้บริการของประเทศไทย ไปใช้เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรม หรือสนับสนุนการก่ออาชญากรรมขององค์กรอาชญากรรม แก๊งหรือกลุ่มบุคคล หรือบุคคล ที่อาศัยหรือหลบซ่อนอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนในเขตประเทศเพื่อนบ้านได้ โดยเริ่มใน 7 พื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดน ได้แก่ อำเภอเชียงของ อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจังหวัดระนอง
โดยสั่งการให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่เป็นเจ้าของหรือให้บริการ ทำการรื้อถอน หรือปรับทิศทางสายอากาศของสถานีวิทยุคมนาคมหรือการกระทำอื่นใด เพื่อให้มีพื้นที่การให้บริการ (Service Area) ครอบคลุมเฉพาะการให้บริการโทรคมนาคมภายในอาณาเขตประเทศไทยเท่านั้น ห้ามมิให้ส่งสัญญาณข้ามไปยังพื้นที่เขตประเทศเพื่อนบ้านเป็นอันขาด เพื่อป้องกันและสกัดกั้นมิให้องค์กรอาชญากรรม แก๊งหรือกลุ่มบุคคล หรือบุคคล ที่อาศัยหรือหลบซ่อนอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนในเขตประเทศเพื่อนบ้านสามารถเชื่อมโยงหรือใช้สัญญาณโทรคมนาคมของผู้ให้บริการภายในประเทศไทยได้