ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท่องเที่ยว ย้อนกลับ
เสริมศักดิ์ ลุยเสริมแกร่งท่องเที่ยว เข็นรายได้ 3.5 ล้านล้าน
09 พ.ค. 2567

เป้าหมายสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาทในปี 2567 ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทำให้ “ประเทศไทยไม่หลับใหล” ถือเป็นการบ้านจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ระบุว่า นี่คือนโยบายเร่งด่วนที่สุด และต้องทำให้ได้!

นายเสริมศักดิ์ เปิดเผยภายหลังเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ วันแรก วานนี้ (8 พ.ค.) ว่า ตอนนี้ภาคการท่องเที่ยวเข้าสู่ “โลว์ซีซัน” ระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ย. 2567 ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทาย จะต้องส่งเสริมตลาดเชิงรุกไปยังกลุ่มประเทศที่มีการยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) ให้ ด้วยการทำแพ็กเกจเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับกิจกรรมอื่นๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ งานแต่งงาน การท่องเที่ยวของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) กลุ่มความเชื่อมูเตลู กลุ่มแฟนคลับศิลปินและไอดอลไทย-เกาหลี รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่พำนักในประเทศไทยและมีค่าใช้จ่ายต่อหัวมากขึ้น

ก่อนเข้าสู่ “ไฮซีซัน” ระหว่างเดือน ต.ค. 2567 - ก.พ. 2568 โดยมีเทศกาลหยุดยาว “วันชาติจีน” (1-7 ต.ค.) เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมออกเที่ยวต่างประเทศสูง ขณะเดียวกันมีนักท่องเที่ยวยุโรปหนีหนาวเข้ามาพำนักในไทยจำนวนมาก จะต้องมีการคิดแคมเปญหรืออีเวนต์ใหม่ๆ เพื่อจูงใจให้วางแผนมาเที่ยวไทย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเป็นอันดับ 8 ของโลกเมื่อปี 2562 ก่อนยุคโควิด-19 ระบาด จากฐานประชากรของไทยที่มีมากอันดับ 50 ของโลก

นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อร่วมกันส่งเสริม ต่อยอดรายได้การท่องเที่ยวให้ถึงเป้าหมาย โดยจะวิเคราะห์แผนยุทธศาสตร์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น! เพราะรัฐบาลจะประเมินผลงานกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ทุก 3 เดือน ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ต้องประเมินผลงานภายในอย่างเข้มข้นในทุกๆ เดือน!

“ผมพร้อมสานต่อนโยบาย Ignite Tourism Thailand ตามที่ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้แถลงวิสัยทัศน์ไว้เมื่อต้นเดือน เม.ย. ทั้งนี้ผมได้พกความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ และมองว่าจะไม่สามารถผลักดันเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวได้เลย ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากภาคเอกชนและอื่นๆ ทั้งนี้ไม่ได้รู้สึกกดดันแต่อย่างใดหลังเข้ารับตำแหน่งนี้ เพราะถือเป็นโอกาสดีที่จะได้โชว์ผลงาน”

ส่วนที่มีการให้เหตุผลเรื่องการปรับ “ครม. เศรษฐา 2” ว่าต้องการให้ตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานและกำกับดูแลข้าราชการนั้น ตนได้ศึกษางานของแต่ละหน่วยงานซึ่งจัดเตรียมแผนงานอยู่แล้ว โดยตนจะเข้ามาช่วยวิเคราะห์เพิ่มเติม รวมถึง “การตรวจผลงาน” เพราะรัฐบาลจะประเมินทุก 3 เดือน ตนก็ต้องตรวจผลงานภายในกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เข้มข้นทุกเดือน! โดยมั่นใจว่าข้าราชการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ตั้งใจทำงานอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น ไม่มีคนแตกแถว สร้างพลัง ขณะเดียวกันก็ต้องมีตัวชี้วัดด้วย นี่คือวิธีทำงานของตน

“ผมอาจจะมีความได้เปรียบตรงที่เคยดำรงตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทยมาก่อน ก็จะขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ มาช่วยกันติดตามและสนับสนุนการทำงานที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ก็จะเชื่อมโยงเครือข่ายการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ผนึกกันให้แน่นขึ้น ผมพร้อมจะเติมเต็มทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้แสดงฝีมือ นี่คือพลังที่ยิ่งใหญ่”

สำหรับตลาด “ไทยเที่ยวไทย” มีความเป็นไปได้ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะออก “มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ” เพิ่มเติมในช่วงโลว์ซีซัน ให้สอดรับกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อคนไทยในตอนนี้ และเป็นจุดที่รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไข โดยอาศัยจุดแข็งด้าน “ซอฟต์พาวเวอร์” เช่น อาหาร และอื่นๆ พร้อมต่อยอดการทำงานจากที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมโปรโมต “การท่องเที่ยวชุมชน” เพื่อสนับสนุนสินค้าชุมชน ให้ประชาชนมีรายได้ตลอดปี

“ในยุคของผมจะเน้นการผลักดันเมืองรองให้เป็นเมืองน่าเที่ยว เพื่อเปิดพื้นที่ต่างๆ หาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น พร้อมพัฒนาแหล่งเที่ยวแบบโฮมสเตย์เพื่อกระจายรายได้ด้วย”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมหารือกับภาคเอกชนท่องเที่ยวเพื่อจัดทำ “แคมเปญใหญ่” กระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงโลว์ซีซัน และมีโครงการอื่นๆ มาเสริม เช่น โครงการรถทัวร์ทั่วไทย เฟส 2 ซึ่งเป็นการสนับสนุนธุรกิจทัวร์และรถบัสนำเที่ยวของแต่ละภูมิภาค โปรโมตตลาดกลุ่มองค์กร ส่งเสริมให้มีการจัดทริปประชุมสัมมนาและดูงานนอกสถานที่

ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โลว์ซีซันเป็นช่วงที่ “นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง” นิยมเดินทางเข้าไทยอยู่แล้วเพราะชื่นชอบฤดูฝน โดยปัจจุบันยังไม่พบว่าได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ ททท.ผลักดันการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากตลาดใหม่ๆ ของภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ด้าน “นักท่องเที่ยวยุโรป” เนื่องจากปีนี้จะมีการจัดมหกรรมกีฬา “โอลิมปิก 2024” ที่ประเทศฝรั่งเศส นักเดินทางแห่ตบเท้าทะลักกรุงปารีสจำนวนมาก ททท.จึงอยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวยุโรปว่าสามารถติดตามการถ่ายทอดสดโอลิมปิกได้อย่างสบายใจที่เมืองไทย

นอกจากนี้ ช่วงต้นเดือน ต.ค. ซึ่งมีเทศกาลหยุดยาว “วันชาติจีน” ททท.จะจัดแคมเปญ “หนีห่าว เฟสติวัล” อย่างยิ่งใหญ่ ในพื้นที่ไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางเข้ามา เช่น ย่านยาวราช หาดใหญ่ ภูเก็ต และราชบุรี

“จากเป้าหมายการทำงานของ ททท. ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยไม่น้อยกว่า 35 ล้านคนในปีนี้ แต่จากการประเมินแนวโน้มล่าสุด คาดว่าจะทำได้ 39 ล้านคน ใกล้เคียงกับจำนวน 40 ล้านคนเมื่อปี 2562 ก่อนโควิดระบาด หนุนการสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาทตามเป้าหมายเชิงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบาย Ignite Thailand ทั้ง 8 ด้านของนายกฯ เศรษฐา ที่จะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวในปีนี้” ผู้ว่าการ ททท.กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 พฤษภาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...