"วีระ สมความคิด"เตรียมขอศาลออกหมายจับ ป.ป.ช. ทั้งคณะฐานขัดหมายบังคับ พร้อมเอาผิดอาญามาตรา 157 ปมไม่ยอมเปิดเผยรายงานการไต่สวนบัญชีทรัพย์สิน "บิ๊กป้อม"
11 พ.ค.2567 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน เตรียมขอศาลออกหมายจับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ไปขัง ฐานขัดหมายบังคับของศาลจนกว่าจะยอมเปิดเผย รายงานการตรวจสอบทรัพย์สิน และจะฟ้องคดีอาญา ป.ป.ช.ทั้งคณะ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ไม่ยอมปฏิบัติตามคำบังคับของศาลที่ให้เปิดเผยรายงานการตรวจสอบทรัพย์สินด้วย ซึ่งเป็นการดำเนินคดีอาญาที่มีโทษจำคุกสูงมาก
กรณีเรื่องนี้เกิดจากนายวีระ สมความคิด ได้ร้องขอให้ ป.ป.ช. เปิดเผยรายงานการไต่สวนบัญชีทรัพย์สิน ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่ ป.ป.ช.ไม่ยอมเปิดเผย นายวีระ สมความคิด จึงฟ้องต่อศาลปกครอง โดยอาศัยสิทธิ์ตามกฎหมายข้อมูลข่าวสาร
ศาลปกครองพิจารณาแล้วพิพากษาให้ ป.ป.ช.เปิดเผยรายงานการตรวจสอบทรัพย์สินดังกล่าว แต่ ป.ป.ช.ไม่ยอมเปิดเผย นายวีระจึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี หลายครั้ง แต่ ป.ป.ช.ก็ไม่ยอมปฏิบัติ
ดังนั้น นายวีระจึงขอให้ศาลมีคำสั่งลงโทษ ป.ป.ช. ฐานขัดหมายศาล ในที่สุดศาลปกครองมีคำสั่งปรับ ป.ป.ช.เป็นเงิน 10,000 บาท ซึ่งถือเป็นการลงโทษทางอาญาอย่างหนึ่ง ฐานขัดหมายศาล และมีคำสั่งว่า ถ้าไม่ชำระให้ยึดทรัพย์ ป.ป.ช เพื่อชำระค่าปรับด้วย
แต่จนบัดนี้ ป.ป.ช.ก็ไม่ยอมปฏิบัติตามคำบังคับของศาล คือยังไม่ยอมเปิดเผยรายงานการตรวจสอบทรัพย์สิน ดังนั้น นายวีระจึงจำเป็นที่จะต้องร้องต่อศาล เพื่อให้ออกหมายจับ ป.ป.ช.ทุกคนมาขังไว้ จนกว่าจะปฏิบัติตามหมายบังคับของศาล
ในเรื่องนี้ ไม่มีบัญญัติไว้ในกฎหมายวิธีพิจารณาคดีปกครอง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะบังคับคดีตามคำพิพากษาไม่ได้ เพราะในกรณีนี้ต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ ตามที่กฎหมายวิธีพิจารณาความปกครองบัญญัติไว้ ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 297 บัญญัติว่า ให้โจทก์ยื่นคำขอแต่ฝ่ายเดียว ขอให้ศาลออกหมายจับ ลูกหนี้ตามคำพิพากษามาขังไว้ จนกว่าจะยอมปฏิบัติตามหมายบังคับของศาล
นายวีระจึงเตรียมใช้อำนาจและสิทธิ์ตามที่กฎหมายดังกล่าวบัญญัติไว้ และเนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามหมายบังคับของศาลนั้น เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามกฎหมายอาญาและกฎหมาย ป.ป.ช.ด้วย นายวีระจึงเตรียมที่จะฟ้องคดีอาญา ป.ป.ช.ทุกคนต่อศาลอาญาคดีทุจริตต่อไป ซึ่งมีโทษค่อนข้างหนัก
นายไพศาล ยังระบุว่า นอกจากนี้ อาจจะร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ฐาน ป.ป.ช.ละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพื่อให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย เมื่อวานนี้ นายวีระ กล่าวว่า นับตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ทรงปฏิรูปกฎหมายเป็นต้นมา ไม่เคยมีหน่วยราชการใดที่กล้าบังอาจท้าทายอำนาจศาลหรือขัดหมายศาล ซึ่งทำการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์
การที่ ป.ป.ช.ขัดหมายศาลไม่ยอมปฏิบัติ เป็นการทำลายความยุติธรรมด้วย และเป็นการแสดงความบังอาจท้าทายอำนาจศาลยุติธรรม ซึ่งทำการในพระปรมาภิไธยมพระมหากษัตริย์ด้วย และข้อสำคัญคือ ขัดขวางการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในการตรวจสอบทรัพย์สินด้วย ตนเองไม่มีทางเลือกจึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ในการท้าทายอำนาจศาลตามกฎหมายต่อไป