เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 67 เวลา 00.30 น. อำนวยการโดยนายชุติเดช  มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ ๓ สาขาแพร่ อำนวยการโดยนายสงคราม ขาวสะอาด ผอ.สจป.3   สาขาแพร่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 6 กก.5 บก.ทล.อำนวยการโดย พ.ต.ท.สีหราช  สุคันธมาลา สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 6 (แพร่)กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อย ตชด.๓๒๓  กก.ตชด.๓๒ (พะเยา) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.2 (แม่สอง) ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้แพร่ 2 เจ้าหน้าที่สายตรวจอุทยานแห่งชาติแม่ยม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศป.ทส.ภ.5เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศป.ทส.จังหวัดแพร่ อุทยานแห่งชาติแม่ยม หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 สายตรวจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สายที่ ๒เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.ประจำจังหวัดแพร่ งานสวนป่าแม่แฮด - แม่สอง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขตแพร่ หลังได้รับจากสายข่าว  แจ้งว่า มีกลุ่มบุคคลลักลอบเข้าไปทำไม้บริเวณห้วยวะสวนป่าแม่แฮดแม่สอง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอง และจะมีการใช้รถยนต์ขนย้ายไม้ออกจากป่า ขอให้คณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบด้วย

         หลังรับแจ้งคณะเจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเข้าตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งโดยใช้รถยนต์ของทางราชการเมื่อเดินทางไปถึงยังจุดเกิดเหตุภายในป่าห้วยวะสวนป่าแม่แฮดแม่สอง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอง พบรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีส้มขาว หมายเลขทะเบียน  71 2293 เชียงใหม่ ด้านท้ายกระบะบรรทุกไม้ท่อน ตรวจสอบพบว่าเป็นชนิดไม้ประดู่ท่อน จำนวน 13 ท่อน ทราบชื่อคนขับภายหลังคือนายธีรสิทธิ์ เรือนแก้ว เจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายธีรสิทธิ์ เรือนแก้ว  นอกจากนั้นพบรถบรรทุกหกล้อติดเครนสีส้ม หมายเลขทะเบียน 70 3834 พะเยา  ด้านท้ายกระบะบรรทุกไม้ท่อน ตรวจสอบพบว่าเป็นชนิดไม้ประดู่ท่อน จำนวน 5 ท่อน ทราบชื่อชายคนขับภายหลังคือนายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) และควบคุมตัวนายประกาศิต  (สงวนนามสกุล)ผู้ประสานงานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย จากนั้นจึงได้นำตัว

         จากการสอบถามนาย นายธีรสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ให้การกับคณะเจ้าหน้าที่ว่าตนไม่ทราบถึงเอกสารการทำไม้ว่ามีหรือไม่อย่างไร ตนเป็นเพียงผู้รับจ้างในการขนย้ายไม้ ซึ่งรถของตนเป็นรถรับจ้างทั่วไป โดยตนจะรับงานผ่านทางกลุ่มไลน์ของกลุ่มรถบรรทุก ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นำน้ำส้มจากสมุทรสาครมาส่งที่อุตรดิตถ์และรอวิ่งงานต่อ ขณะเดียวกันได้มีงานติดต่อผ่านกลุ่มไลน์รถบรรทุกให้มาขึ้นไม้เรือนเก่าที่จังหวัดแพร่ ตนจึงได้รับงานเนื่องจากตนอยู่ใกล้กับพื้นที่  ต่อมามีนายประกาศิต สินทรัพย์ ได้โทรมาหาตนและให้ตนนำรถมารอที่อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เพื่อรอขึ้นไม้  โดยตนได้ขับรถมาที่อำเภอสอง จังหวัดแพร่ มาจอดรองานที่หน้าโรงเรียนบ้านป่าแดง  จากนั้นมีนายประกาศิต สินทรัพย์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับตน และนำไปยังจุดที่ขึ้นไม้ โดยนายประกาศิต (สงวนนามสกุล) ได้ขี่รถจักรยายนต์นำตนเข้าไปยังพื้นที่ป่าเพื่อทำการขึ้นไม้จนมาถูกคณะเจ้าหน้าที่จับกุม    โดยตนได้ตกลงค่าจ้างในการขนย้ายไม้ครั้งนี้กับนายประกาศิต (สงวนนามสกุล)เป็นเงินจำนวน 20,000 บาท โดยค่าจ้างจะได้รับเมื่อทำการขนย้ายไม้เสร็จ 

         สอบถามนายประกาศิต (สงวนนามสกุล) ให้การกับคณะเจ้าหน้าที่ว่าตนไม่มีเอกสารการได้มาของไม้แต่อย่างใด ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุประมาณ 4 วัน ได้มีหญิงคนหนึ่งซึ่งต้นไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครได้โทรศัพท์มาหาตนเพื่อจะว่าจ้างให้ตนนำรถไปขึ้นไม้ให้ แต่รถของตนนำไปต่อเติมกระบะที่จังหวัดสุโขทัยไม่พร้อมที่จะรับงาน ตนจึงรับปากที่จะหารถมาทำการขนย้ายไม้ให้ ตนจึงได้ติดต่อนายธีรสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ให้มาทำการขนย้ายไม้ให้ โดยตนได้รับค่าจ้างจากหญิงเจ้าของโทรศัพท์ จำนวน 35,000 บาทโดยแบ่งให้กับเจ้าของรถ 20000 บาท รถเครน 8000 บาท ส่วนที่เหลือตนเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายขณะการดำเนินการ ต่อมาเย็นวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 17.00 น.  หญิงคนดังกล่าวได้โทรมาหาตนอีกครั้ง และแจ้งว่าประมาณ 2 ทุ่มให้มาเจอกันบริเวณทางเข้าป่า ตนจึงได้ไปรับรถบรรทุกสิบล้อที่หน้าโรงเรียนป่าแดง และพาเข้าไปยังเส้นทางก่อนเข้าป่า พอไปถึงเส้นทางเข้าป่าได้มีชายขี่รถจักรยานยนต์มารอรับตนที่บริเวณทางเข้าป่า และขี่รถนำตนและรถสิบล้อเข้าไปยังพื้นที่ขึ้นไม้  

       เบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนและทำการตรวจยึดรถบรรทุกทั้ง 2 คัน และไม้ประดู่ท่อน  จำนวน 18 ท่อนและดำเนินการสอบปากคำและติดตามหาตัวผู้ว่าจ้างเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป