ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สังคม / บุคคล ย้อนกลับ
ตร.ออกหมายจับรองนายกฯจันดีเอี่ยวคอลเซ็นต์เตอร์
15 พ.ค. 2567

พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมกำลังปฏิบัติการ นำกำลังปิดล้อมตรวจค้น 7 จุด ในพื้นที่ อ.ฉวาง และ อ.ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามยุทธการ Takedown Scammer Ep:2 จับกุมเครือข่ายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติโดยจุดที่น่าสนใจ คือการเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของนางเรวดี รองนายกเทศมนตรีจันดี และนายหลิน หรือ โกหยาง ผู้เป็นสามี และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงที่158/2567 ลงวันที่ 8 พ.ค. ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ร่วมกันเป็นซ่องโจรและร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติการตรวจสอบไม่พบตัว น.ส.เรวดี และสามี ซึ่งคาดว่า หลบหนี การจับกุม เพราะไม่ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ในบ้านพบเพียงผู้ดูแลเท่านั้น โดยบ้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายในมีการแบ่งเป็นโซนที่พักและห้องทำงาน อีกโซนเป็นที่เก็บสินค้าจำพวก ถุงพลาสติก สินค้าเบ็ดเตล็ด ทั่วไป ซึ่งตำรวจได้ตรวจยึดเอกสารหลักฐานบริษัทในเครือข่าย โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีธนาคาร รวมไปถึง รายการเดินบัญชีธนาคารต่างๆ ขณะที่กำลังตำรวจอีกส่วนเข้าตรวจสอบบ้านอีกหลังในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.อาทิตยา ลูกสาวนางเรวดี โดยเบื้องต้นไม่พบตัว น.ส.อาทิตยา พบชาวจีน 1 คน ซึ่งเป็นพ่อสามีของ น.ส.อาทิตยา อาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าว ตำรวจตรวจยึดเอกสารหลักฐาน,สมุดบัญชีธนาคาร ไว้ทำการตรวจสอบ

อีกจุดได้เข้าตรวจค้นโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในตัว ต.ฉวาง ซึ่งจุดนี้จับผู้ต้องหาตามหมายจับในฐานความผิดเดียวกันได้ รวม 4 คน พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ ,อุปกรณ์เราเตอร์ เป็นต้น พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์ สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปูพรมตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ ที่ลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทย,ชาวจีน,ชาวรัสเซียและชาวญี่ปุ่น โดยครั้งนั้นจับกุมขบวนการชาวจีน และผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวม 90 คน พร้อมยึดของกลางอีกรายหลายการ เช่น คอมพิวเตอร์ 192 เครื่อง, มือถือและซิมผี 854 เครื่อง, Router กระจายสัญญาณ 22 เครื่อง, และบัญชีม้า 342 เล่มขยายผลพบความเชื่อมโยงว่า ขบวนการดังกล่าวมีรองนายกเทศมนตรีจันดี ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ตั้งเป็นฐานปฏิบัติการ และได้ผลประโยชน์จากการเช่าอาศัย อีกทั้งสามี มีการโอนเงินซื้อคอมพิวเตอร์,โทรศัพท์ให้กับกลุ่มคอลเซนเตอร์ชาวจีน และทำหน้าที่จ่ายเงินให้ลูกจ้างชาวไทย และ น.ส.อาทิตยา ลูกสาว ยังเป็นนอมินี ปรากฏชื่อในบริษัทที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ใช้บังหน้า จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ 7 คน ตามที่กระจายกำลังเข้าตรวจค้นวันนี้ในกลุ่มผู้ต้องหาที่ตำรวจควบคุมตัวได้ ผลการสอบปากคำ ยังให้การภาคเสธ แต่ให้ความร่วมมือในการตรวจค้นและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวนตำรวจ ระบุว่า ขบวนการนี้หลอกลวงเหยื่อหลากหลายวิธีในหลายประเทศ ทั้งประเทศจีน ,ญี่ปุ่น,รัสเซียและไทย โดยออกอุบายหลอกลงทุนชักชวนเล่นพนันออนไลน์ ซื้อสินค้าในแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง ในลักษณะสแกมเมอร์ ผ่านแอปพลิเคชันสื่อสารต่างๆ ซึ่งขบวนการนี้มีเงินหมุนเวียนกว่าล้านบาท

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...