เมื่อวันที่ 24 ม.ค.2561 นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงกรณีกรุงเทพมหานครเกิดสภาพอากาศนิ่ง และชั้นอากาศผกผันใกล้พื้นดิน ทำให้มลพิษทางอากาศเกิดการสะสมตัวในปริมาณมาก โดยระบุว่า ผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร เกินค่ามาตรฐานในทุกพื้นที่อยู่ที่ 54 -85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยสูงสุดที่ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี และ จ.สมุทรปรา การ 59-71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐานต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
กรมควบคุมมลพิษ ยังรายงานคุณภาพอากาศ โดยพบว่า บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก รวมทั้งเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน หรือ PM10 มีค่า 138 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถืออยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีข้อแนะนำด้านสุขภาพ เด็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวนหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก
จากการตรวจสอบพบว่า ในวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา พบมีค่าฝุ่นสูงถึง 157 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รวมทั้ังบริเวณเขตลาดพร้าว เขตวังทองหลาง มีค่าฝุ่นละอองสูง 127 ไมโครกรัมต่อลุกบาศก์เมตร ส่วนในวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา 134 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มค่าฝุ่นละออง ค่าโอโซนแนวโน้มเกินมาตรฐาน ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศในเขตกรุงเทพมหานครหลายพื้นที่อยู่ในเกณฑ์คุณภาพปานกลาง