ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า จากนโยบายของ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้กรมอุทยานฯ ลาดตระเวนเฝ้าระวังและป้องกันการกระทำผิดด้านทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า โดยนายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)และนายมานะ เพิ่มพูน ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง)ปฏิบัติตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นอย่างเคร่งครัด

       จากนโยบายข้างต้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยล้อ ออกลาดตระเวนลาดตระเวนเชิงคุณภาพ( SMART Patrol)เพื่อ ป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้และสัตว์ป่าในเขตรับผิดขอบภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ

        จนกระทั่งไปถึงบริเวณป่าด่านตะแบก ท้องที่ หมู่ 2 ต.หนองเป็ด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พบบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย 2 คน ผูกเปลนอนอยู่บนป่าเขา จากการสังเกตพบคล้ายกลุ่มนายพรานที่เข้าไปล่าสัตว์ป่า เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่พร้อมกับเข้าจับกุมผู้ต้องหาเอาไว้ได้ จำนวน 2 คน ทราบชื่อคือนายวน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี และ นายบุญรุ่ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ชาว ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี 

         จากการตรวจสอบพบซากตะกวด จำนวน 1 ซาก พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว ไทยประดิษฐ์ที่ใช้ในการล่าสัตว์ป่า จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 8 นัด และอุปกรณ์ที่ใช้กระทำผิดอีกหลายรายการ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง พร้อมกับจดทำบันทึกเรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี ปรับ ตั้งแต่ 300,000-1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนอาวุธปืนเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินคดี โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม มีรายชื่ออยู่ในบัญชีของเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว จึงติดตามดูพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้พร้อมของกล่าวดังกล่าว

.............................................
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี/ ปรีชา  ไหลวารินทร์