ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
พัชรวาท ให้เร่งฟื้นฟูบ่อน้ำบาดาล จ.ฉะเชิงเทรา
21 พ.ค. 2567

“พัชรวาท” ให้เร่งฟื้นฟูบ่อน้ำบาดาล จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้รับผลกระทบ กรณีทำนบดินชั่วคราวของการก่อสร้าง โครงการประตูระบายน้ำท่าถั่วเกิดการพังทลาย

พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งกำชับให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ติดตามผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำ กรณี ทำนบดินชั่วคราวของการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำท่าถั่วเกิดการพังทลาย พร้อมเร่งให้ฟื้นฟูบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการของ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ติดตามผลกระทบต่อแหล่งน้ำบาดาล กรณี ทำนบดินชั่วคราวของการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำท่าถั่ว ตำบลบางกรูด อำเภอท่าโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เกิดการพังทลาย ทำให้น้ำเค็มจากแม่น้ำบางปะกงไหลทะลักเข้าคลองประเวศบุรีรมย์ และคลองสาขา ส่งผลกระทบต่อ สัตว์น้ำ พืช รวมถึงน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้มอบหมายให้สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาล ร่วมกับกองมาตรฐานคุณภาพน้ำบาดาล และสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 9 (ระยอง) ศึกษา สำรวจ และประเมินผลกระทบต่อแหล่งน้ำบาดาล ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 อำเภอ ประกอบด้วย บางส่วนของอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอบ้านโพธิ์ และอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา และจะเร่งฟื้นฟูบ่อน้ำบาดาลที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้โครงการศึกษา สำรวจ เพื่อประเมินผลกระทบต่อแหล่งน้ำบาดาลจากสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำ กรณีทำนบดินชั่วคราวของการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำท่าถั่วเกิดการพังทลาย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลอยู่ระหว่างสำรวจสถานภาพบ่อน้ำบาดาล คุณภาพน้ำบาดาล และสถานการณ์การใช้น้ำบาดาลในปัจจุบันที่อาจได้รับผลกระทบจากการรุกล้ำของน้ำเค็มจากแม่น้ำบางปะกงที่ไหลเข้าสู่คลองประเวศบุรีรมย์ และคลองสาขาต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมพบปะพูดคุยกับประชาชนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดกรณีทำนบดินชั่วคราวของการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำท่าถั่วเกิดการพังทลาย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ใช้น้ำประปาภูมิภาคในการอุปโภค-บริโภค มีเพียงบางส่วนใช้น้ำบาดาลเป็นแหล่งน้ำสำรอง ปัจจุบันยังไม่พบว่าส่งผลกระทบต่อน้ำที่ใช้ในการอุปโภค-บริโภค ประชาชนยังมีน้ำประปาใช้อย่างเพียงพออยู่

สำหรับการตรวจวัดคุณภาพน้ำบาดาลเบื้องต้นในพื้นที่อำเภอบ้านโพธิ์ ทำการตรวจวัดค่าการน้ำไฟฟ้า (EC) และคลอไรด์ (Cl) พบค่าการน้ำไฟฟ้า (EC) อยู่ในช่วง 1,700 - 5,600 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร (µS/cm) และคลอไรด์ (Cl) อยู่ในช่วง 420 - 2,100 มิลลิกรัมต่อลิตร (mg/L)

ส่วนพื้นที่ตำบลบางกะไห และตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ตรวจวัดคุณภาพน้ำบาดาลเบื้องต้นในพื้นที่ พบค่าการน้ำไฟฟ้า (EC) อยู่ในช่วง 1,280 - 3,520 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร (µS/cm) และคลอไรด์ (Cl) อยู่ในช่วง 240 - 900 มิลลิกรัมต่อลิตร (mg/L) เกณฑ์กำหนดเหมาะสม 250 มิลลิกรัมต่อลิตร

เกณฑ์อนุโลมสูงสุดไม่เกิน 600 มิลลิกรัมต่อลิตร เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำบาดาลที่จะใช้บริโภคได้ บ่งชี้ว่าน้ำบาดาลบริเวณดังกล่าวมีคุณภาพกร่อย-เค็ม ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการบริโภค สำหรับในบ่อน้ำบาดาลที่มีค่าการนำไฟฟ้าไม่เกิน 1,850 ไมโครซีเมนส์ต่อเซนติเมตร ยังสามารถนำมาใช้ในการอุปโภคได้

ทั้งนี้ ผลที่ได้จากการสำรวจดังกล่าว จะนำไปใช้เป็นข้อมูลสำหรับวางแผนในการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำบาดาลแล้วนำไปวิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาลในห้องปฏิบัติการของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเพื่อประเมินผลกระทบต่อคุณภาพน้ำบาดาล และกำหนดแนวทางการฟื้นฟูบ่อน้ำบาดาลที่ได้รับผลกระทบ โดยสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 9 (ระยอง) จะเร่งเป่าล้างทำความสะอาดบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 30 บ่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อนต่อแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่โดยเร็ว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 ธันวาคม 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...